กาญจนบุรี - คนงานวัย 21 ปี ดวงกุดก่อนบวช ขณะรื้อถอนเสาไฟฟ้ายาว 8 เมตร หนัก 500 กิโลกรัม ฐานเครนรถยกสภาพเก่ารับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้เสาไฟฟ้า และเครนรถยกหักล้มทับศีรษะดับสยอง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (30 เม.ย.) ร.ต.ท.ธรรมวัฒน์ สุขีวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่า เกิดเหตุเสาไฟฟ้าล้มทับคนงานเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณด้านหลังร้านไทยเจริญค้าปลีก ติดกับถนนสายแก่งเสี้ยน-หนองสองตอน หมู่ 8 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานขอรถยกจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดกาญจนบุรีมาช่วยเหลือ
ไปถึงพบรถเครนขุดเจาะ 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีส้ม สภาพเก่า หมายเลขทะเบียน 81-7696 กาญจนบุรี จอดอยู่ริมทาง กระจกด้านหน้าแตกกระจาย ด้านบนฐานเครนขุดเจาะล้มไปทางด้านขวา ส่วนปลายยึดล็อกติดอยู่กับเสาไฟฟ้ายาว 8 เมตร หนัก 500 กิโลกรัม ที่ล้มอยู่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว พบศพ นายกิตติวัฒน์ หรือไปป์ เนตรตุ้ม อายุ 21 ปี ไม่ทราบเลขที่ หมู่ 13 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สภาพศพนอนคว่ำตะแคงไปทางซ้าย ถูกเสาไฟฟ้าทับเข้าที่บริเวณศรีษะจนแบน มีเลือดไหลนองเต็มพื้นดิน มันสมองกระจาย การแต่งกายสวมเสื้อยืดสีส้มแขนยาว ด้านหลังเขียนว่า หจก.สยามอุดร เทรดดิ้ง ใส่กางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ที่เกิดเหตุมีประชาชนเดินทางมามุงดูเป็นจำนวนมาก
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิตติวัฒน์ ผู้ตายกำลังนำสายยางรดน้ำที่บริเวณหลุมดินโคนเสาไฟฟ้า เพื่อให้ดินที่ฝังกลบเสาไฟฟ้าอ่อนตัว เพื่อให้รถเครนยกเสาไฟฟ้าขึ้นได้ง่าย และขณะที่เพื่อนคนงานอีก 1 คน กำลังบังคับเครนขุดเจอะเพื่อยกเสาไฟฟ้าขึ้นจากหลุม และขณะที่กำลังยกเสาไฟฟ้าขึ้นมาได้สำเร็จ อยู่ๆ ฐานเครนขนาดใหญ่ก็เกิดหักลงทำให้ นายกิตติวัฒน์ ที่กำลังใช้มือพยุงเสาไฟถูกเสาไฟฟ้าน้ำหนัก 500 กิโลกรัมล้มทับที่บริเวณศีรษะจนเสียชีวิตในทันที
ด้านนายอานนท์ เจ้าเมืองแดงโต อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/3 หมู่ 13 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าของรถเครน และเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาไม่มีชื่อ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่ โดยมีบริษัทแห่งหนึ่งได้ว่าจ้างให้ตนมารื้อถอนเสาไฟฟ้าออกจากจุดดังกล่าว ส่วนผู้ตายได้มาทำงานกับตนได้ประมาณ 10 วัน และได้ขอลางานในวันที่ 15 พ.ค. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากว่าจะไปบวช แต่ยังไม่ได้บวชก็มาเสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของรถเครนคันดังกล่าว อีกทั้งผู้ตายก็เป็นลูกน้อง ดังนั้น ตนจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายให้แก่ครอบครัวของเขาทั้งหมด และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
ด้าน ร.ต.ท.ธรรมวัฒน์ สุขีวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุจะทำการสอบปากคำเจ้าของรถเครนคันดังกล่าว รวมทั้งคนงานที่มีหน้าที่ขับรถเครนคันเกิดเหตุด้วย นอกจากนี้ จะสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ว่าเกิดเหตุขึ้นได้อย่างไร แต่จากการตรวจสอบสภาพรถพบว่า มีสภาพที่เก่ามาก และเจ้าของได้ใช้งานมานานหลายปี และจากการสอบถามเจ้าของรถเครนทราบว่า สามารถรับน้ำหนักได้ 4 ตัน ส่วนเสาไฟฟ้าที่กำลังยกขึ้นมีน้ำหนัก 500 กิโลกรัม จากสภาพที่เก่ามากจึงทำให้ฐานเครนขุดเจาะไม่สามารถรับน้ำหนักของเสาไฟฟ้าได้จึงทำให้หักลงมาก่อนที่เสาไฟจะล้มทับนายกิตติวัฒน์ จนเสียชีวิต
แต่อย่างไรก็ตาม จะนำตัวเจ้าของรถเครนพร้อมคนงานที่เป็นคนขับไปสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติม เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ได้ประสานให้ญาติของผู้ตายทราบแล้ว และจะนำศพไปยังโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เพื่อให้ทางญาติไปรับศพที่นั่น ส่วนจะติดใจเอาความหรือไม่ก็ให้ไปเจรจากันกับคู่กรณีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี