xs
xsm
sm
md
lg

น้องเหี้ยมใช้จอบทุบสับด้วยง้าวฆ่าพี่ชาย เหตุบ่นรับภาระค่าน้ำไฟแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - วิกฤตค่าครองชีพถีบตัวสูงตามเงานโยบายเพิ่มค่าแรงของรัฐบาลพ่นพิษ ส่งผลเกิดเหตุสยองน้องเหี้ยมแค้นถูกพี่ชายพร้อมมารดาบ่นต่อว่าใช้น้ำไฟสิ้นเปลืองจนมีปากเสียง ก่อนคว้าจอบสับซ้ำด้วยมีดง้าว จบลงที่ร่างของพี่ชายร่วมสายเลือดอีกคนที่เข้าห้ามปราม แหลกเละคามือ

วันนี้ (29 เม.ย.) เวลา 00.10 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.ต.สุชาติ เจริญศรี พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อเวลา 20.30 น. คืนที่ผ่านมา (28 เม.ย.) ได้รับแจ้งเกิดเหตุพี่น้องฆ่ากันตาย อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 414/1 ม.20 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นร้านค้าของชำประจำหมู่บ้าน “บ้านห้วยนา” ตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านธรรมรัตน์ใน-บ้านหนองขาหยั่ง

ในที่เกิดเหตุ พบร่างของนายไพวัลย์ ฉันติมา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 413 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา สภาพตามร่างกายถูกสับด้วยของมีคมจนแหลกเละ ที่ศีรษะถูกทุบฟันจนมันสมองแตกกระจาย ที่แผ่นหลังถูกฟันด้วยของมีคมเป็นบาดแผลลึกยาวประมาณ 50 ซม. จนลำตัวหวิดขาดเป็นสองท่อน 1 แผล นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กับพื้นริมถนนบริเวณด้านหน้าร้านค้าของชำดังกล่าว

จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ และญาติๆ ของผู้เสียชีวิต รวมถึงนายสวน ฉันติมา อายุ 85 ปี ผู้เป็นบิดาของคู่กรณีทั้งหมดทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายร่วมสายเลือดแท้ๆ ของผู้ตายเอง คือ นายสุนันท์ ฉันติมา อายุ 40 ปี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น นางคำดี ฉันติมา อายุ 85 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับ นายสำอาง ฉันติมา อายุ 50 ปี บุตรชายอีกคนซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าของชำที่เกิดเหตุดังกล่าว

ได้พูดบ่นต่อว่าผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าของร้านว่า ใช้น้ำ และไฟฟ้าสิ้นเปลืองมาก หลังจากที่พี่ชายผู้เป็นเจ้าของร้านค้าเป็นผู้รับภาระจ่ายค่าสาธารณูปโภคที่ถูกต่อพ่วงไปใช้ บ่นต่อว่าผ่านมาทางมารดามา จึงสร้างความไม่พอใจต่อผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมาก

ต่อมา ในช่วงใกล้ค่ำ นายสุนันท์ ได้ดื่มสุราย้อมใจจนได้ที่ก่อนที่จะเดินถือมีดขอโค้งง้าว เดินเข้ามาต่อว่า นายสำอาง ซึ่งมีนางคำดี มารดาที่คอยพูดต่อว่าซ้ำด้วย จึงทำให้นายสุนันท์ เกิดบันดาลโทสะ และได้พยายามที่จะก่อเหตุอาละวาดใส่ทั้งพี่ชายและมารดา จากนั้นได้มีพี่ชายของ นายสุนันท์ อีกคนซึ่งเป็นคนรองลงไปจาก นายสำอาง คือ นายไพวัลย์ ได้พยายามเข้ามาห้ามปราม

แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับฟัง นายไพวัลย์ จึงได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ไม่ทราบขนาดยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ แต่นายสุนันท์ ไม่เกรงกลัวกลับได้พยายามที่จะเข้าไปยื้อแย่งปืนออกมาจากมือของนายไพวัลย์ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน และอาวุธปืนได้ลั่นใส่ที่ข้อเท้าเหนือตาตุ่มด้านขวาของนายสุนันท์ จึงทำให้นายสุนันท์เกิดความโมโหสุดขีด จึงได้คว้าจอบที่วางอยู่ใกล้เคียงสับลงไปที่ศีรษะของนายไพวัลย์

จากนั้น ยังได้ตีซ้ำลงไปที่กะโหลกศีรษะอีกหลายครั้งจนกะโหลกศีรษะแตกและใบหน้าของพี่ชายแหลกเหลว ก่อนที่จะใช้มีดของ้าวสับลงไปที่กลางลำตัวของพี่ชายแท้ๆ ซ้ำลงไปอีกจนลำตัวเกือบขาดออกเป็นสองท่อน

ขณะเดียวกัน นายสำอาง ต่างได้รับบาดเจ็บถูกมีดของ้าวฟันที่กลางหลังจนเป็นแผลยาวแต่บาดแผลไม่ลึกมากจนถึงขั้นอาการสาหัส หลังจากที่ได้พยายามเข้าไปห้ามปราม และยื้อแย่งอาวุธกับน้องชายทั้ง 2 คนด้วยด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งไปรักษาบาดแผลยัง รพ.ท่าตะเกียบ จากนั้น นายสุนันท์ จึงได้เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านของตนเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้แต่โดยดี

ร.ต.ต.สุชาติ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุของคดีนี้เกิดมาจาก ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ภายในครอบครัว โดยที่ผู้ก่อเหตุนั้นได้ต่อพ่วงเอาสาธารณูปโภคจากบ้านอีกหลัง ซึ่งเป็นบ้านใหญ่ของครอบครัวไปใช้ จากพี่น้องร่วมมารดาทั้งหมด 10 คน ที่ปลูกบ้านเรือนเรียงรายกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ แต่ไม่ยินยอมช่วยกันชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจนทำให้มีปากเสียงกัน

เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา ต่อนายสุนันท์ ว่า "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา" โดยที่ผู้ต้องหานั้นได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น