พิษณุโลก - ดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบรุกป่าสงวนเมืองสองแคว ระดม จนท.กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ แจงพิกัดและเนื้อที่เสียหาย หลังส่งทีมลงพื้นที่มาแล้ว 2 วัน พร้อมเตรียมผสานกำลังตรวจเพิ่มอีกทั้งสัปดาห์ ก่อนชงเป็น “คดีพิเศษ”
วันนี้ (24 เม.ย.) พ.ต.ท.สถาพร สันติสิทธานนท์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป.4 กอ.รมน. (สวนรื่นฤดี) พ.ต.ท.ไตรรงค์ ชัยชนะ รอง ผกก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ตำรวจป่าไม้-กก.4บก.ปทส.) ตำรวจสันติบาล ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดพิษณุโลก ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาย (กอ.รมน.)ภาค 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวร กองทัพภาคที่ 3 เพื่อสรุปพิกัดพื้นที่และจำนวนพื้นที่ที่ถูกบุกรุก โดยได้ระดมระดับผู้อำนวยการส่วน จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กรมป่าไม้ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมชี้แจงถึงปัญหานายทุนบุกรุกผืนป่า ว่าพื้นที่ถูกบุกรุกว่าเป็นของกลุ่มทุนใด และพิกัดพื้นที่ป่าไม้เสียหายจำนวนเท่าไหร่ พื้นที่ที่ถูกรุกอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือป่าอนุรักษ์ เนื้อที่เท่าไหร่ มีผู้เกี่ยวข้องกันมากน้อยแค่ไหน
หลังจากได้ระดมกำลังหลายหน่วยงานตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขต อ.วังทอง อ.เนินมะปราง อ.นครไทย อ.ชาติตระการ และอ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่ถูกนายทุนที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มทุนจากภาคใต้เข้ามากว้านซื้อที่ดินต่อจากผู้นำท้องถิ่น และขยายเนื้อที่ต่อเนื่องไปยังเขาสูงเตรียมปลูกยางพารามาแล้ว 2 วัน และเตรียมลงพื้นที่ต่อเนื่องอีก 3 วันต่อจากนี้
พ.ต.ท.สถาพรกล่าวว่า กำลังรวบรวมพยานหลักฐานการบุกรุกป่า ร่วมกับหัวหน้าป่าไม้หน่วยต่างๆ ก่อนจะนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากรับเป็นคดีพิเศษจะมีการสอบสวนเชิงลึกและติดตามผู้กระผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด