ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมช.คมนาคม รุดเยี่ยมนักเที่ยวเกาหลี ยันให้ความช่วยเหลือเยียวยาทุกกรณี พร้อมสั่งเดินเครื่องตั้งศูนย์ความปลอดภัยทางทะเลแก้ปัญหาใน 15 วัน
วันนี้ (23 เม.ย.)นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ มายังโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเรือสปีดโบต ข.เข็มทอง ชนกับเรือ ก.น้องใหม่ 7 บริเวณอ่าวหน้าชุมชนเกาะล้าน หมู่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 19 คน และไกด์ชาวไทย 1 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยววัย 63 ปี ถูกตัดขาซ้ายออกเพื่อรักษาชีวิต โดยได้มอบกระเช้าแสดงความห่วงใย พร้อมแสดงเจตจำนงให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกรณีเรื่องของค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารักษาพยาบาลของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งได้รับปากว่าทางรัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลให้
จากนั้น นายประเสริฐ เป็นประธานการประชุมร่วมกับกรมเจ้าท่า สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ เมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา มีนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา บรรยายสรุปเหตุการณ์ และร่วมหารือการวางมาตรการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวทางทะเล เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดี รวมทั้งสร้างความมั่นใจในศักยภาพการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นายประเสริฐ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมาก แต่จากการรับฟังบรรยายแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะมาจากเรื่องของตัวบุคคล หรือความประมาทเป็นหลัก เนื่องจากมาตรการที่เมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางไว้นั้นดีแล้ว เพียงแต่อาจติดปัญหาเรื่องของอุปกรณ์ และบุคลากรเท่านั้นที่จะกำกับ หรือควบคุมดูแล เพราะปัจจุบันพบว่า เมืองพัทยาเองมีผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวชนิดสปีดโบตกว่า 1,000 ลำ เจ็ตสกีกว่า 500 ลำ ไม่นับรวมเรือโดยสาร และเรือชนิดอื่นอีก
ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อย่างเจ้าท่าภูมิภาค ตำรวจน้ำ หรือเมืองพัทยา มีจำนวนน้อย จึงทำให้การควบคุมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งได้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานวางแผนทำงานแบบบูรณาการ พร้อมประชุมหารือหาข้อกำหนดที่ชัดเจนอีกครั้งภายใน 15 วันจากนี้ โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นแม่งานในการดำเนินการที่เข้มข้น
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคงต้องดำเนินการแก้ไขในหลายประเด็น ได้แก่ การสร้างความเข้าใจแก่นานาประเทศ เกี่ยวกับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของเมืองพัทยา ที่ถือว่าทำไว้ดีแล้ว เพียงแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากอุบัติเหตุ และความประมาทเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค จัดทำทะเบียนเรือ ตรวจสอบใบนายท้ายของกีฬาทางน้ำทุกประเภท เพื่อความสะดวกในการควบคุม รวมทั้งอบรมผู้ขับขี่ เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการตามความต้องการของผู้บาดเจ็บ เพื่อให้สมกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก สุดท้ายคือ การหารือร่วมในการจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางทะเล โดยนำหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องปรามปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
