กาฬสินธุ์ - ตำรวจกมลาไสย กาฬสินธุ์ ร่วมกับชุด ปส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ปะทะเดือดแก๊งนกขมิ้นค้ายาเสพติด โดยคนร้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย สุดท้ายถูกรวบยกแก๊ง 4 ราย ยึดของกลางยาบ้า 187 เม็ด ปืนอีก 1 กระบอก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (14 เม.ย.) พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นำกำลังชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และชุด ปส.สภ.เมืองร้อยเอ็ดกว่า 20 นาย บุกล้อมจับผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ายาเสพติด บริเวณป่าละเมาะท้ายบ้านฟากปาว ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ติดกับลำน้ำปาว
โดยที่เกิดเหตุพบเต็นท์นอนลายพรางทหารกางอยู่ และเปลนอนผูกติดกับต้นไม้ พบชายฉกรรจ์ 3 คน และหญิง 1 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม โดยต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากทราบว่า กลุ่มคนร้ายมีอาวุธปืน แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะถึงตัวกลุ่มคนร้ายก็เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ทันที 1 นัด และพยายามวิ่งหนี พร้อมกับยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ
ตำรวจจึงยิงปืนสวนจนถูกคนร้าย 1 คน ล้มลง ทราบชื่อคือ นายจำลอง หรือสิงโต พลพุทธา อายุ 33 ปี ชาว อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด คดียาเสพติด ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ชายโครงหลังด้านขวา 2 นัด ได้รับบาเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ แพทย์ต้องเร่งผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว
ตรวจค้นร่างกายพบยาบ้าในกระเป๋ากางกาง 45 เม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ส่วนเพื่อนร่วนขบวนการที่เหลืออีก 3 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้ทั้งหมด ทราบชื่อคือนายวสันต์ ศาลาแสง อายุ 18 ปี นายวีระยุทธ ใสยาศรี อายุ 23 ปี และ น.ส.นิสาบล จันดอง อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด
จากการตรวจที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวนมาก ค้นภายในเต็นท์นอนของคนร้ายเจ้าหน้าที่พบยาบ้าอีก จำนวน 142 เม็ด เงินสด 4,500 บาท รวมยาบ้าที่ยึดได้ 187 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า เพิ่งนำยาบ้าไปส่งให้แก่เครือข่ายใน อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 600 เม็ด และกำลังจะนำไปส่งให้แก่ลูกค้าคนหนึ่งในตัว อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 200 เม็ด เพื่อนำไปขายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นในช่วงสงกรานต์ แต่มืดเสียก่อน จึงมากางเต็นท์นอนในป่า และแฝงตัวเป็นคนหาปลาเพื่อตบตา และหลบเลี่ยงการจับกุม แต่ก็ต้องมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุม และเกิดยิงปะทะกันจนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ถือเป็นแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ตำรวจเฝ้าติดตามจับตัวมานานแล้ว โดยพฤติกรรมจะเที่ยวตระเวนส่งยาบ้าให้แก่เครือข่าย ซึ่งหากมืดค่ำที่ไหนก็จะนอนที่นั่น และส่วนใหญ่จะกางเต็นท์นอนในป่า เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามตัวของตำรวจ
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
