xs
xsm
sm
md
lg

วอนผู้ใจบุญช่วยยายเก็บของเก่าถูก จยย.ชนสะโพกแตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา-ชาวบ้านโร่ร้องสื่อ ยายวัย 79 เก็บของเก่าขายหาเงินเลี้ยง 2 หลาน ถูก จยย.เฉี่ยวได้รับบาดเจ็บสะโพกแตก วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเพราะฐานะยากจน

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในชุมชนเนินพลับหวาน 3 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า คุณยายบุญเลิศ น้อยนนท์ อายุ 79 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชน ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเพราะทางบ้านมีฐานะยากจน

จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบเป็นบ้านเช่าปลูกอยู่หลังสุดท้ายภายในชุมชน สภาพภายนอกเป็นไปอย่างอัตคัด ภายในบ้านมีนางต้อย นนทมาลย์ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาว และหลานชายอีก 2 คน คอยดูแลคุณยายบุญเลิศ ที่นอนพักอยู่บนเตียงนอนกลางบ้านอย่างใกล้ชิด

นางต้อง เล่าว่า ยายบุญเลิศมีอาชีพเก็บของเก่าขายเพืิอหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและส่งเสียเลี้ยงดูหลานชายอีก 2 คน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในละแวกเดียวกัน โดยยายบุญเลิศ จะเข็นรถเข็นออกหาของเก่าตั้งแต่เช้ามืดของทุกวัน และจะกลับเข้าบ้านในช่วงค่ำ

จนเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ยายบุญเลิศเดินเท้าเข็นรถเข็นเก็บของเก่าเพื่อกลับบ้านพัก จนมาถึงใกล้โรงน้ำแข็งบางละมุง มีวัยรุ่นขี่รถจัดรยานยนต์หักหลบรถกระบะก่อนมาเฉี่ยวชน ยายบุญเลิศ จนได้รับบาดเจ็บสะโพกซ้ายแตกต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง

ทั้งนี้ คณะแพทย์ได้ลงความเห็นว่าจะต้องมีการผ่าตัดเพื่อใช้สะโพกเทียมซึ่งมีค่าใข้จ่ายประมาณ 4 หมื่นบาท ทางครอบครัวจึงเกรงว่าหากมีการผ่าตัดอาจทำให้ยายบุญเลิศอาการทรุดลงไปได้เพราะยายอายุมากแล้ว ประกอบกับไม่ได้รับการยืนยันจากทางแพทย์ว่าอาการจะดีขึ้น และด้วยฐานะยากจนจึงนำตัว ยายบุญเลิศ กลับมารักษาตัวที่บ้านพักเพราะไม่มีเงินเพียงพอ

นางต้อง เล่าด้วยว่า ด้วยความยากลำบากในการใช้ชีวิตจึงไม่ได้มีการแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ และหลังจากยายบุญเลิศ บาดเจ็บ ตัวเองต้องลาออกงานประจำมาคอยดูแล ทำให้รายได้ประจำที่เคยมีต้องหายไป ส่งผลให้ความเป็นอยู่ในปัจจุบันมีความลำบากเป็นอย่างมาก เพราะหลานชาย 2 คนอยู่ในวัยเรียน และเพิ่งมาเสียมารดาไป จึงอยากให้ผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนเดียวกันคอยมาดูแล นำอาหาร เครื่องใช้มาช่วยเหลือ แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจังตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และด้วยช่วงนี้เข้าเทศกาลสงกรานต์ทำให้หน่วยงานราชการปิดทำการเป็นเวลาหลายวัน จึงแจ้งเรื่องไปยังสื่อมวลชนเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงช่วยนำเสนอความทุกข์ยากสู่สาธารณชนอีกทาง





กำลังโหลดความคิดเห็น