xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ มช.เจ๋ง-คิดค้น ติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น Real Time ติดตั้งศูนย์เด็กเล็กลำปางนำร่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลำปาง - นักวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นำเครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กติดตั้งศูนย์เด็กเล็ก อบต.นาแก้ว นำร่องวัดค่าหมอกควันแบบ Real Time ยันแสดงผลจนชุมชนแก้ไขปัญหาได้ทันที พร้อมดึง อปท.หนุนชาวบ้านผลิตหน้ากากอนามัยให้เด็กสู้หมอกควัน

ผศ.สุชาติ เกียรติวัฒนเจริญ ผศ.ศุภชัย ชัยสวัสดิ์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำเครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศชนิดแสดงผลทันที หรือ Real Time Air Particulate Matters Monitoring ที่ได้คิดค้นขึ้น และมีราคาเพียงประมาณ 100,000 บาท ถูกกว่าต่างประเทศที่มีราคาประมาณ 400,000 บาท มาติดตั้งที่ศูนย์เด็กเล็ก อบต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง เพื่อวัดปริมาณฝุ่นควันหรือค่า PM10 โดยมีคณะของ ผศ.จุฑามาศ โชติบาง กลุ่มวิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เดินทางมาติดตามการทำงานโครงการสร้างเสริมศักยภาพชุมชนท้องถิ่น และอาจารย์สมจิตร เกียรติวัฒนเจริญ ผู้ดูแลโครงการในพื้นที่ตำบลนาแก้ว ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ได้ทำขึ้นเพื่อดูแลสุขภาพของเด็กเล็กในพื้นที่ภาคเหนือหลังจากเกิดวิกฤตหมอกควันเดินทางมาด้วย

ผศ.สุชาติ เกียรติวัฒนเจริญ ผู้วิจัยและประดิษฐ์เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก กล่าวว่า เครื่องวัดฝุ่นนั้นมีหลายแบบ สำหรับเครื่องที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้เป็นเครื่องที่ใช้การวัดแบบทึบแสงของบรรยากาศ ถ้าอากาศมีฝุ่นมากก็จะมีความทึบสูง แล้วจะนำไปเทียบกับเครื่องมาตรฐาน แปลงค่าออกมาเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเหมือนกับมาตรฐานทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองค่าควันจำลองในห้องทดลองมาแล้ว และพบว่ามีค่าความคาดเคลื่อนน้อยมาก

โดยเครื่องที่ประดิษฐ์นี้จะวัดค่ามาตรฐานทั่วไปพื้นที่ระยะ 2 กิโลเมตร ส่วนเครื่องวัดมาตรฐานทั่วไป รัศมี 5 กิโลเมตร คือ 50 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐาน
 
ผศ.สุชาติยังได้ให้ความเห็นอีกว่า หากมีเครื่องวัดชนิดนี้ไว้ประจำตำบลละ 1 เครื่อง จะมีประโยชน์มาก เพราะสามารถใช้ในการป้องกันเด็กๆ หรือประชาชนในพื้นที่ได้ เนื่องจากหากเครื่องวัดอ่านค่าในช่วงเวลาไหนที่มีฝุ่นสูง ครูก็อาจจะไม่ให้เด็กออกจากห้อง หรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือให้มีการพ่นน้ำ เพื่อลดหมอกควัน ขณะเดียวกันก็สามารถเช็กได้ด้วยว่าในตำบลใกล้เคียงมีปริมาณค่าฝุ่นมากน้อยเท่ากันหรือไม่ หากพื้นที่ในมีฝุ่นมากก็จะต้องช่วยกันหาสาเหตุและแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบต่อสุขภาพของเด็ก โดยให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากนำเด็กออกก็ต้องสวมผ้าผ้าปิดปากจมูก ดื่มน้ำมากๆ ติดตั้งเครื่องพ่นน้ำแบบฝอยละออง รอบตัวอาคารของศูนย์ การทำความสะอาดห้อง บริเวณศูนย์ ไม่เผาขยะ ซึ่งจะดำเนินโครงการทั้งหมด 6 จังหวัด คือ จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดนำร่อง เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน น่าน และสุโขทัย

“นอกจากนี้จะได้เร่งจดลิขสิทธิ์เครื่องดังกล่าวในเร็วๆ นี้ด้วย”

ด้าน ผศ.จุฑาทาศเปิดเผยว่า โครงการสร้างเสริมศักยภาพชุมุชนท้องถิ่น เพื่อดูแลเด็กวัย 2-5 ปี ณ ศูนย์เด็กเล็กตำบลนาแก้ว ถือว่าเป็นศูนย์นำร่องแห่งแรก เพิ่งเริ่มต้นดำเนินงานเมื่อต้นเดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมา เหตุที่เลือกพื้นที่ จ.ลำปางก่อนเนื่องจากได้ทำงานร่วมกับ ผศ.สุชาติ ในการนำเครื่องวัดฝุ่นมาติดตั้ง จึงพบว่าที่ผ่านมา จ.ลำปางประสบปัญหาหมอกควันจำนวนมาก แต่ทุกคนมักจะไม่ได้สนใจเด็กเล็กในเรื่องของการใช้อุปกรณ์ในการป้องกันตัวเอง ซึ่งจะสังเกตว่าผ้าปิดปากปิดจมูกก็จะมีเฉพาะของผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อเด็กนำมาสวมใส่ก็ไม่เหมาะ ไม่ได้สัดส่วน และที่สำคัญคือเด็กไม่ค่อยให้ความสนใจจะสวมใส่เนื่องจากไม่น่าสนใจ

ดังนั้นจึงได้นำปัญหาดังกล่าวซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีอายุ 2-5 ขวบ ให้ทางชุมชนวิเคราะห์ปัญหาด้วยตัวเอง โดยจะมีคณะทำงานในพื่นที่ คือ อปท. สนับสนุนงบให้กับกลุ่มชาวบ้านผลิตแมสที่เป็นผ้าขนาดพอเหมาะกับใบหน้าเด็กหลากสีสัน เพื่อดึงดูดความสนใจเด็ก ซ้อนด้วยแผ่นกรองสามารถนำมาซักได้ ใช้ต้นทุนการผลิตเพียงชิ้นละ 7 บาทเท่านั้น

“จากนี้ไปจะนำเสนอโครงการดังกล่าวให้กับพื้นที่อื่นๆ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนต่อไป”



กำลังโหลดความคิดเห็น