วันนี้ (10 เม.ย.) พ.ต.อ.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผกก.สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวน สามารถจับกุมแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงขายพระปลอมในราคาสูงแก่เด็ก นักศึกษา และประชาชนในจังหวัดชลบุรีได้ครบแก๊ง
ประกอบด้วย 1.นายสะอาด กลิ่นแก้ว อายุ 43 ปี 2.นายจักรกฤษ นาคาชล อายุ 43 ปี 3.นายวิทยา เหมรา อายุ 33 ปี 4.น.ส.สายสุนีย์ ภาคทรัพย์ อายุ 42 ปี และ 5.น.ส.มะลิษา รอดเอียด อายุ 30 ปี ได้ที่ถนนสุขุมวิท สี่แยกอัสสัมชัญศรีราชา
การจับกุมแก๊งคนร้ายรายนี้ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายว่ามีแก๊งหลอกขายพระสมเด็จในราคานับล้านบาท โดยจะให้เหยื่อนำทรัพย์สินที่นำติดตัวค้ำประกันไว้ก่อน และหากขายพระได้ก็จะคืนทรัพย์สินให้
ในจังหวะที่เหยื่อนำพระไปขาย แก๊งดังกล่าวก็จะหลบหนีไปแล้วทำให้เหยื่อต้องสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เช่น สร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ แหวนทองคำ หรือเงินสด
พ.ต.อ.ธนิต กล่าวว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเจ้าแจ้งความ จำนวน 3 ราย ว่าเกิดเหตุแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายพระปลอม ซึ่งเหตุเกิดขึ้นบริเวณท่ารถโดยสารและบริเวณห้างโรบินสัน ศรีราชา จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุมแก๊งรายนี้ให้ได้ จนไปพบผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งกำลังถูกแก๊งรายนี้หลอกลวงอยู่ แต่มีไหวพริบแอบถ่ายคลิปไว้ จากนั้นได้หลบหนีแก๊งดังกล่าวออกมาได้
ในจังหวะนั้นได้ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังออกติดตามแก๊งรายนี้อยู่ จึงนำภาพจากคลิปที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือมาให้ดู และเห็นหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังติดตามตัวจนพบคนร้ายดังกล่าวกำลังหลบหนีโดยใช้รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน กษ 1523 ชลบุรี หลบหนีจากห้างโรบินสัน และไปยูเทิร์นที่หน้าวัดวังหิน จนมาถึงบริเวณทางแยกเข้าอัสสัมชัญศรีราชา จึงเข้าจับกุมได้ยกแก๊ง
ด้านนายสอาด กลิ่นแก้ว อายุ 43 ปี หนึ่งในคนร้ายกล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามาทำงานได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยมี น.ส.มะลิษา รอดเอียด เป็นหัวหน้าทีม และจะเป็นผู้วางแผนการทำงานทั้งหมด ซึ่งการทำงานในแต่ละครั้งจะไปกันทั้ง 5 คน ซึ่งจะหลอกเหยื่อตามแหล่งชุมชนต่าง เช่น ห้างโรบินสัน ศรีราชา ห้างแหลมทอง บางแสน ตลาดหนองมน ตลาดเฉลิมไทย ตลาดศรีราชา
ในเดือนเมษายนนี้ก่อเหตุมาแล้ว 6 ราย ได้ทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย สร้อยและแหวนทองคำ โทรศัพท์มือถือ จากนั้น น.ส.มะลิษา จะเป็นคนนำทรัพย์สินไปขายและแบ่งเงินให้
สำหรับแก๊งรายนี้จะมาเช่าบ้านหรือโรงแรมบริเวณอ่าวอุดม บางแสน จากนั้นก็จะใช้โทรศัพท์ติดตามตัวเพื่อออกปฏิบัติงานในแต่ละครั้ง โดยจะออกทำงานเกือบทุกวัน โดยจะหมุนเวียนไปในทุกๆ พื้นที่ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผู้เสียหายนับ 100 รายแล้ว