นครพนม - ไม้พะยูงล็อตใหญ่ทะลักข้ามโขง นรข.บ้านแพง ผสานกำลัง จนท.อุทยานฯ สกัดยึดได้ 145 ท่อน มูลค่านับ 2 ล้านบาท หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มมาตรการเข้มป้องกันการลักลอบตัด
เรือเอก เดโชพล ป้องจันทร์ หัวหน้าสถานีเรือหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อำเภอบ้านแพง จ.นครพนม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (9 เม.ย.) เจ้าหน้าที่สถานีเรือบ้านแพง พร้อมด้วย นายสว่าง เฟื่องกระแส ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี และนายณัฐยศ ชัยชนะทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้ผสานกำลังเจ้าหน้าที่วางแผนสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบขนไม้พะยูงในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม เชื่อมต่อพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
ภายหลังสืบทราบจะมีการลักลอบขนส่งไม้พะยูงหวงห้ามล็อตใหญ่ข้ามแม่น้ำโขงไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน จนกระทั่งสามารถเข้าตรวจยึดไม้พะยูงหวงห้ามได้ทั้งหมดจำนวน 145 ท่อน ขนาดความยาวประมาณ 52-3 เมตร หน้ากว้างประมาณ 20-40 เซนติเมตร ตรวจสอบส่วนใหญ่พบเป็นไม้เก่า โดยมีการซุกซ่อนไว้บริเวณป่าริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตบ้านดงบัง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบยึดเป็นของกลางแต่ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบเชื่อว่าไม้พะยูงดังกล่าวได้มีการลักลอบลำเลียงขนส่งมาพักไว้เพื่อรอการขนส่งลงเรือข้ามไปขายยังประเทศจีนโดยผ่านเมืองปากกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ถนนหมายเลข 8 เข้าเวียดนามทะลุจีน ระยะทาง 700 กม. ซึ่งเป็นเส้นทางใกล้ที่สุดและเป็นสาเหตุที่ไม้พะยูงลักลอบตัดในภาคอีสานจะถูกลำเลียงมาที่ริมโขงอำเภอบ้านแพง และบึงกาฬ
นายณัฐยศ ชัยชนะทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันปราบปราม และกำหนดพิกัดต้นไม้พะยูงภายในพื้นที่อุทยานฯ และจัดชุดลาดตระเวนต่อเนื่อง เพราะขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติจ้างชาวบ้านลักลอบตัดในราคาต้นละ 800-1,500 บาท
รวมทั้งรับซื้อไม้พะยูงเก่าของชาวบ้าน เช่น เสารั้วโรงเรือเก็บฟางข้าวหรือโรงเรือคอกวัวควาย โดยชาวบ้านทนราคาดีไม่ได้จึงทำให้ปัจจุบันตลาดไม้พะยูงเก่าและไม้ใหม่คึกคักมาก โดยจะมีการซื้อขายกันด้วยการชั่งกิโล ประมาณกิโลกรัมละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งของกลางที่ยึดได้วันนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท