กาฬสินธุ์ - ผู้บัญชาการเรือนจำร่วมตำรวจภูธรภาค 4 รวบผู้คุมซี 5 เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ลักลอบนำยาบ้า-โทรศัพท์ส่งให้กับนักโทษ ยึดของกลางยาบ้า 380 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อ้างญาติฝากอาหารให้นักโทษ ไม่รู้ว่ามียาบ้าข้างใน ขณะที่ผู้บัญชาการระบุก่อนหน้าตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาพบฉี่ม่วง เชื่อเกลือเป็นหนอน จึงวางแผนจับกุม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (2 เม.ย.) นายยศวัตน์ บำเพ็ญธรรมสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และผู้คุมหน้าประตู 1-3 ร่วมกันควบคุมตัวนายบุญเลิศ บัวหอม อายุ 47 ปี ข้าราชการซี 5 นักวิชาการฝึกอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญการ เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังลักลอบนำยาบ้าและโทรศัพท์มือขณะกำลังเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อส่งให้นักโทษภายในเรือนจำ
จากการตรวจค้นพบยาบ้า 380 เม็ดซ่อนอยู่ในกล่องเครื่องสำอางบำรุงผิว และโทรศัพท์มือถือไอโมบาย 1 เครื่อง อยู่ในกระเป๋าเล็กสีแดง โดยยาบ้าและโทรศัพท์มือถือถูกซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใส่ขนมปังและอาหารเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ นายบุญเลิศอ้างว่าทำงานเป็นผู้คุมเรือนจำมา 17 ปีแล้ว ก่อนที่ตนจะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำ มีสาวประเภทสองไม่ทราบชื่อ รูปร่างผอมสูง ผมยาว นำถุงพลาสติก ซึ่งข้างในมีเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายและขนม ช่วยฝากเข้าไปให้นักโทษ ซึ่งทราบเพียงชื่อเล่นว่าจันทร์ ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์แดน 6 คดียาเสพติด แต่ไม่ทราบว่าข้างในถุงจะมียาบ้าและโทรศัพท์มือถือ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจค้นและจับกุม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าไม่ปักใจเชื่อให้คำให้การของนายบุญเลิศ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ต้องรู้ว่าก่อนที่นำสิ่งของเข้าเรือนจำต้องตรวจค้น และคาดว่านายบุญเลิศได้ลักลอบนำยาบ้าและโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนหลายครั้งแล้ว เพราะที่ผ่านมาได้ตรวจปัสสาวะนักโทษพบเป็นสีม่วง และพบโทรศัพท์หลายเครื่อง คาดว่าผู้ที่ลักลอบนำเข้าไปน่าจะเป็นนายบุญเลิศ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายยศวัตน์ บำเพ็ญธรรมสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรือนจำได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองบุกจู่โจมตรวจค้นและตรวจปัสสาวะนักโทษในเรือนจำหลายครั้ง พบว่านักโทษหลายรายมีปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงร่วมกับ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ที่รายงานไปยัง พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 จากนั้นได้ติดตามและเข้มงวดตรวจค้นผู้ที่ผ่านเข้า-ออก ตลอดจนสิ่งของที่ญาติฝากเข้าไปเยี่ยมนักโทษ กระทั่งพบการกระทำผิด ซึ่งเป็นผู้คุมเรือนจำเสียเอง
เบื้องต้นคาดว่าผู้คุมคนนี้น่าจะลักลอบนำยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้าไปส่งนักโทษหลายครั้งแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าโทรศัพท์มือถือที่นำไปขาย จะมีราคาสูงถึงเครื่องละ 20,000 บาท ส่วนยาบ้านักโทษจะขายต่อในราคาสูงถึงเม็ดละ 2,000 บาท ดังนั้นต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แม้จะยังปากแข็งปฏิเสธก็ตาม
ด้าน พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากผู้บัญชาการเรือนจำต่อเนื่อง เพราะพบความผิดปกติในการตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง ซึ่งได้รายงานไปยัง พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.4 ร่วมนำสายสืบเข้าติดตาม จนพบว่าผู้คุมรายหนึ่งมีพฤติกรรมไม่ไว้วางใจ จึงได้ร่วมกันตรวจค้นจับกุม อย่างไรก็ตามจะมีการขยายผลติดตามเครือข่ายภายในเรือนจำ ซึ่งเชื่อว่าจะต้องมีขาใหญ่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังแน่นอน