พิจิตร - ผู้ว่าฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง บอกอยากได้น้ำกินน้ำใช้ให้โทร.แจ้ง พร้อมส่งให้ภายใน 24 ชม. ขณะที่ชลประทานพิจิตรย้ำ 3 เดือนจากนี้ห้ามทำนาปรังรอบ 3 ไม่เช่นนั้นไม่มีน้ำแน่
วันนี้ (2 เม.ย.) นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เรียกประชุมนายอำเภอและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบปัญหาภัยแล้ง และหาวิธีการช่วยเหลือเกษตรกร หลังภัยแล้งทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น โดยจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 12 อำเภอ 36 ตำบล 289 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้ว 1 แสนไร่
นายจักรินกล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ช่วยเหลือเกษตรกรโดยนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้ง สูบน้ำจากคลองซอยไปสู่คลองไส้ไก่ ส่งไปหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรไม่ให้ได้รับความเสียหายแล้ว 15 เครื่อง ใน อ.เมือง อ.ะพานหิน และอ.บางมูลนาก และได้รับการคำร้องขออีก 2 อำเภอ คือ อ.โพธิ์ประทับช้าง และอ.สามง่าม ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค ทางชลประทานพิจิตรได้เตรียมรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร พร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกเมื่อ เพียงขอให้แจ้งมาก็จะไปแจกจ่ายภายใน 24 ชั่วโมง
ด้านนายประเวศน์ ศิริศิลป์ ชลประทานจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า จากที่ปล่อยน้ำมาช่วยเหลือเกษตรกรทำการเพาะปลูกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดจ่ายน้ำในเขตชลประทานตั้งแต่วันที่ 1 และ 15 เมษายน เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล ที่เคยระบายลงมา 50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ต้องลดเหลือแค่ 28-30 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจทำให้ไม่เพียงพอเพาะปลูกในรอบต่อไป
“ขอให้เกษตรกรจัดหาแหล่งน้ำสำรองหรือเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการทำการเกษตรให้เพียงพอ อีกทั้งขอให้ชะลอการเพาะปลูกไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนนี้ห้ามทำนาปรังรอบ 3 เด็ดขาด เพราะจะเจอกับวิกฤตภัยแล้ง ที่ใครก็ไม่สามารถหาน้ำมาจ่ายให้ได้อย่างแน่นอน”