ผู้ว่าฯ พิจิตรประกาศเขตภัยแล้งทั้งจังหวัด น้ำน่านลดใกล้วิกฤต

พิจิตร - จังหวัดพิจิตรประกาศภัยแล้งครอบคลุมครบทั้งจังหวัด 12 อำเภอแล้ว ขณะที่แม่น้ำน่าน ลดระดับลงจนใกล้วิกฤต ผู้ว่าฯ สั่งท้องถิ่นเฝ้าระวังและเร่งจัดหาแหล่งน้ำสำรอง หวั่นกระทบระบบน้ำประปาแก่ประชาชน

วันนี้ (20 มี.ค. 56) นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดพิจิตรขณะนี้เริ่มทวีความรุนแรงแผ่ขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจังหวัดพิจิตรได้ประกาศพื้นที่อำเภอโพทะเล เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพิ่มเติมอีก 1 อำเภอ ส่งผลให้จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินจากภัยแล้ง ครอบคลุมครบทั้งจังหวัด 12 อำเภอแล้ว มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค 36 ตำบล 283 หมู่บ้าน จำนวน 17,529 ครัวเรือนหรือ 58,737 คน นาข้าวเสียหายสิ้นเชิง 1 แสนไร่ พืชสวน 8,300 ไร่

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้อำเภอและท้องถิ่นออกแจกจ่ายน้ำกิน น้ำใช้ แจกจ่ายให้กับราษฎรไปแล้วกว่า 3 ล้านลิตร

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันยังพบว่าแม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านตัวอำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนาก ระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่องแบบไม่เคยลดระดับต่ำเช่นนี้มาก่อน จนบางจุดสามารถมองเห็นเนินดินทราย หรือเดินข้ามแม่น้ำได้เลยทีเดียว

ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่แม่น้ำน่านที่ไหลผ่าน 3 อำเภอของพิจิตร มีชุมชนเมืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตลอดแนว จึงทำให้หลายฝ่ายต่างหวั่นเกรงว่าหากสถานการณ์ภัยแล้งและน้ำเหนือเขื่อนยังคงมีปริมาณน้อยเช่นนี้อาจจะกระทบการผลิตน้ำประปาเพื่อการบริโภค รวมทั้งระบบนิเวศต่างๆ จึงได้สั่งการด่วนไปยังการประปาส่วนภูมิภาคและปกครองส่วนท้องถิ่นให้เร่งดำเนินการจัดเตรียมแหล่งน้ำสำรองเพื่อการบริโภค รวมทั้งน้ำใต้ดินอย่างเร่งด่วน พร้อมกับสำรวจความเสียหายจากภัยแล้งเพิ่มเติม เพื่อให้ส่วนราชการและปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป