สุโขทัย - ผู้ว่าฯ-นายก อบจ.-ททท. จับมือปั้น “ปีท่องเที่ยวสุโขทัย” บุกตลาดสโลว์ไลฟ์ สโลว์ทราเวิล ดึงคนเข้าซึมซับต้นกำเนิดราชอาณาจักรไทย แบบชิลชิลให้ได้ 1.6 ล้านคน พร้อมวางเป้าหมายดันให้เป็นศูนย์กลางเมืองมรดกโลกอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุโขทัยว่า นางสุมิตรา ศรีสมบัติ ผวจ.สุโขทัย พร้อมด้วย ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ นายก อบจ.สุโขทัย และ น.ส.สรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผอ.ททท.สนง.สุโขทัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดโครงการปีท่องเที่ยวสุโขทัย (รุ่งอรุณแห่งความสุข) 2556-2557 ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เพื่อผลักดันให้จังหวัดเป็นที่รู้จักในมุมมองที่แตกต่างออกไป จากเดิมที่นักท่องเที่ยวจะแห่มาเที่ยวสุโขทัยเฉพาะช่วงงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ เท่านั้น
นางสุมิตรา เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาจังหวัด ซึ่งสุโขทัย มีความพร้อม และมีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นหลากหลาย ทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ประกอบกับมีฐานะเป็นเมืองแห่งต้นกำเนิดราชอาณาจักรไทย และมีมรดกโลกตั้งอยู่ถึง 2 แห่ง คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
“เราจะเน้นการบุกตลาดสโลว์ไลฟ์ สโลว์ทราเวิล ดึงให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาสัมผัสบรรยากาศ ซึมซับกับเสน่ห์ความเป็นต้นกำเนิดราชอาณาจักไทย และให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนแบบชิลชิล สบายๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองโบราณให้นานยิ่งขึ้น”
อีกแนวทางหนึ่งที่ต้องการผลักดันคือ ทำให้สุโขทัยเป็นศูนย์กลางเมืองมรดกโลกของอาเซียน โดยให้นักท่องเที่ยวเริ่มต้นชมความยิ่งใหญ่ของมรดกโลกสุโขทัย ก่อนไปที่มรดกโลกกำแพงเพชร จากนั้นเชื่อมต่อไปยังเมืองพุกาม หลวงพระบาง วัดพูเมือง จำปาสัก และฮอยอัน หรือเมืองอื่นๆ ซึ่งทางจังหวัด และ ททท.สุโขทัย จะร่วมกันทำการตลาดกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ทั้งในเอเชีย และกลุ่มประเทศตะวันตก
ด้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศก็จะมีกิจกรรมที่ท้าทาย เช่น การปีนหน้าผา จักรยานเสือภูเขา และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จะมีการพัฒนามาตรฐานการให้บริการอุปกรณ์ การรักษาความปลอดภัย และความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเที่ยวด้วย
“ปีที่ผ่านมา สุโขทัยมีนักท่องเที่ยวมากว่า 8 แสนคน ทำเงินสะพัดกว่า 1,500 ล้านบาท โดย 70% เป็นคนไทย ที่เหลือมาจากยุโรป อเมริกา และมีกลุ่มเพิ่มใหม่คือ สแกนดิเนเวีย ส่วนใหญ่จะเดินทางมาช่วงวันหยุดยาวมกราคม-มีนาคม และกรกฎาคม-สิงหาคม”
ผวจ.สุโขทัย กล่าวอีกว่า จังหวัดมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้นักท่องเที่ยวมาสุโขทัยเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้านคนต่อปี ซึ่งสามารถเป็นไปได้ เพราะสุโขทัยมีของดีเป็นต้นทุนอยู่เยอะมาก เพียงแต่ต้องพัฒนาการตลาดให้เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายมากขึ้น และรุกด้านประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ พร้อมทั้งชาวสุโขทัยต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี ทำให้สุโขทัยเป็นเมืองน่าอยู่น่าเที่ยว และมีความปลอดภัยด้วย