เชียงราย - สมาคมท่องเที่ยวเมืองพ่อขุนฯ เปิดเวทีถกอนาคตท่องเที่ยวเชียงราย ดึงกลุ่ม “นาคราชนคร” ทุนใหญ่ผู้ถือสัมปทานพัฒนาพื้นที่หัวสะพานข้ามโขง 4 ร่วมขึ้นเวที แจงศักยภาพ “ประตูเชื่อมไทย-ลุ่มน้ำโขง และจีนตอนใต้” เผย 4 พันสินค้าแบรนด์ดัง 10 ปท. ทั่วโลกจองพื้นที่ขายแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย ได้จัดการเสวนาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงรายขึ้นที่ห้องประชุมราชาวดี โรงแรมเชียงรายแกรนด์รูม อ.เมืองเชียงราย โดยมีนายอภิชา ตระสินธุ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมขึ้นเวทีทั้ง นายพรหมโชติ ไตรเวช ผอ.การท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผช.ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาเชียงราย นายวิวัฒน์ กณะบุตร ผอ.กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ดร.สิชา สิงห์สมบุญ ประธานประธานบริษัทเอเอซี กรุ๊ป ซึ่งดำเนินโครงการนาคราช บริเวณเชิงสะพานไทย-สปป.ลาว ทั้ง 2 ฝั่งประเทศ และ ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ รองประธานโครงการฯ
นายพรหมโชติ กล่าวว่า ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของเชียงรายที่ผ่านมาถือว่ามีคนสนใจมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้าร่วม 2.4 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติ 450,000 คน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ควรจะมีสถานที่ท่องเที่ยวรองรับเพิ่มขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอีก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่จะทะลักเข้ามามากขึ้น เช่น ศูนย์บริการสินค้า ศูนย์มัคคุเทศก์ชายแดน
ด้าน ดร.เหมโชค กล่าวว่า สำหรับโครงการนาคราชนคร ดำเนินการในฝั่งเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ด้วยสัมปทาน 40 ปี และต่อได้อีก 40 ปี บนเนื้อที่ 1,200 ไร่ มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ตัดผ่านช่วงต้นของโครงการ ก่อนจะไปเชื่อมกับถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ปัจจุบัน ดำเนินการถึงระยะที่ 3 จากทั้งหมด 6 เฟสแล้ว เริ่มตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภค ถนน แหล่งน้ำ ไฟฟ้า โรงแรม และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เขตการค้าเสรี หรือดิวตี้ฟรี ร้านอาหาร สปาและการนวด ปัจจุบัน เป็นเฟสที่ 3 จะดำเนินการถึงปี 2559 โดยจะมีศูนย์การค้า อาคารพาณิชย์ สถานีบริการรถบรรทุก เฟส 4 ถึงปี 2559 เช่นกันจะเป็นโรงแรม ศูนย์รวมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ศูนย์กีฬา
“แต่เชื่อว่าสิ้นปี 2557 โครงการก่อสร้างทั้งหมดก็คงจะแล้วเสร็จ เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีการก่อสร้างสะพานตัดเข้าตัวโครงการ แต่เมื่อมีสะพาน-ถนน ทำให้เราต้องเร่งรัดโครงการมากขึ้น โดยโรงแรมแห่งแรกจะก่อสร้างเสร็จเดือนในพฤษภาคม 56 นี้ ก่อนการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงในเดือนมิถุนายน 1 เดือน รวมทั้งดิวตี้ฟรี เพื่อให้เป็นตลาดของสินค้าไทยที่จะส่งไปถึงจีนตอนใต้ เพราะเราถือว่าอยู่ในจุดที่เป็นประตูของสินค้าไทยสู่ประเทศต่างๆ พอดี นอกจากนี้ ยังจะมีโรงแรมใหญ่อีกแห่งเปิดในปีหน้าด้วย” ดร.เหมโชค กล่าว
ดร.เหมโชค บอกว่า เราให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมกับเชียงรายมาก จึงได้เปิดให้เป็นตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นศูนย์การค้า หรือชอปปิ้งฮอลล์ ปัจจุบัน มีสินค้ายี่ห้อดังเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อจำหน่ายแล้วกว่า 4,000 แบรนด์ จาก 10 ประเทศทั่วโลก เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก
“เราไม่กังวลเรื่องจะไม่มีคนไปเยือน เพราะเป็นประตูเชื่อมประเทศไทยกับกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะจีน และโครงการยังได้ใบอนุญาตทางการค้า และขนส่งด้วย จึงทำให้สร้างสถานีรถเพื่อเป็นศูนย์ลอจิสติกส์ ดังนั้น ห้องพักที่เรามีอยู่ทั้งหมดประมาณ 500 ห้องจึ งอาจไม่เพียงพอในบางช่วงด้วยซ้ำ”
ดร.สิชา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แม้โครงการนี้จะอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว แต่อยากจะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศไทย และคนไทย ซึ่งเมื่อศึกษาถึงศักยภาพของภาคเหนือของไทยแล้วพบว่า ภาคการท่องเที่ยวมีโอกาสมากที่สุด ดังนั้น จึงได้พัฒนาและเปิดให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมรองรับการเป็นประตูสู่จีนตอนใต้ ซึ่งมีประชากรร่วม 60 ล้านคน หรือเกือบเท่าประเทศไทยทั้งประเทศ และอนาคตคนจีนก็จะทะลักลงมาอีกมาก และจำเป็นต้องผ่านพื้นที่โครงการด้วย
“ไทยเราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะขัดแย้งกันอีกแล้ว เพราะเมื่อเปิดประเทศสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 เป็นต้นไป ก็จะต้องเผชิญการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะเรื่องแรงงานที่มีราคาถูก และขยันขันแข็งมาก”