xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านแหลมฉบังกรีนวิว 3 ฟ้องเจ้าของโครงการ-ธนาคาร หลังสร้างความเดือดร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอำเภอเป็นประธานประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแหลมฉบังกรีนวิว 3
ศูนย์ข่าวศรีราชา-ชาวบ้านแหลมฉบังกรีนวิว 3 เตรียมฟ้องเจ้าของโครงการ และธนาคาร หลังสร้างความเดือดร้อน ด้านทนายความชี้ต้องใช้เวลานานประมาณ 4 เดือน ในการเดินเรื่องสู้คดี โดยพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี นายวิชัย สัมพันธรัตน์ นายอำเภอศรีราชา ได้รับมอบหมายจาก นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านแหลมฉบังกรีนวิว 3 เกือบ 300 หลังคาเรือน ในเรื่องถนนในการเข้า-ออกหมู่บ้าน โดยมีตัวแทนชาวบ้าน ทนายความ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี (สาขาศรีราชา) เทศบาลนครแหลมฉบัง ร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา

สาเหตุที่ร่วมประชุมครั้งนี้ เนื่องจากทางเจ้าของโครงการ คือ บริษัทกรีนวิว พรอพเพอร์ตี้ จำกัด โดยมีนายสมชาย พันนุช กรรมการบริษัทฯ ได้นำที่ดินภายในโครงการแบบยกแปลงไปจำนองกับธนาคารกรุงไทย (สาขาอ่าวอุดม) จำนวน 26 ล้านบาท จากนั้นทางธนาคารได้โอนสิทธิการรับจำนองให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ทำให้ที่ดินโดยเฉพาะถนนในโครงการถูกยึด และกำลังจะขายทอดตลาด ซึ่งจะทำให้ชาวบ้าน และผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่มีถนนเข้า-ออก สร้างความเดือดร้อน ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาเรียกร้องดังกล่าว

ด้าน นายวิชัย ถาวรพงษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการหมู่บ้านแหลมฉบังกรีนวิว 3 กล่าวว่า ในที่ประชุมโดยนายอำเภอได้จัดตั้งทนายความเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในการฟ้องร้อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยผู้ที่ถูกฟ้องร้อง คือ 1.บริษัทกรีนวิว พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของโครงการ 2.ธนาคารกรุงไทย (สาขาอ่าวอุดม) ผู้สนับสนุนโครงการ และ 3.บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ผู้รับโอนสิทธิการรับจำนองจากธนาคาร ทั้งๆ ที่รู้ว่าโครงการดังกล่าวดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ให้การสนับสนุน และรับจำนอง โดยเฉพาะถนนภายในหมู่บ้านที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันยังไปรับจำนองถึง 26 ล้านบาท

ขณะนี้ชาวบ้านจะต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้ทนายความ เพื่อเป็นข้อมูลในการฟ้องร้อง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในทำงานประมาณ 4 เดือน โดยในช่วงเวลา 4 เดือนนี้ ชาวบ้านก็ต้องหาแนวทางอื่นมาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย โดยไม่ปล่อยให้ทนายความทำงานเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เช่น ทำหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดจากธนาคารกรุงไทย (สาขาอ่าวอุดม)

ด้านนายสุวัต ทัศน์จันดา ประธานชมรมทนายความจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตนจะต้องรวบรวมหลักฐานต่างๆ จากชาวบ้าน ซึ่งในเบื้องต้นจะต้องรีบฟ้องเพื่อให้เกิดภาระจำยอม ซึ่งหลังจากภาระจำยอมแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในเบื้องต้นได้ หลังจากนั้น จะต้องให้เจ้าของโครงการมาจดทะเบียนทำโครงการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
พร้อมประสานทนายความเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้ อย่างเต็มที่
โครงการนี้ ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบของกฎหมายอย่างจริงจัง จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น