ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ยิงสนั่นกลางเมืองขอนแก่น ตำรวจไล่ล่าสกัดจับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามภูมิภาค ก่อนจนมุมกลางสี่แยกถนนมะลิวัลย์ ลากตัวลุยค้นบ้านพักริมทางเข้าสนามบินขอนแก่นพื้นที่ร่วม 20 ไร่ พบยาบ้าและยาไอซ์ รวมมูลค่าหลายล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุดพิเศษ เอกศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแกน และ พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นกว่า 40 นาย กระจายกำลังปิดล้อมเส้นทางขาเข้าตัวเมืองขอนแก่น ถ.มะลิวัลย์ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจากสายว่าขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่กำลังลำเลียงยาบ้ามาส่งมอบให้ลูกค้าภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ผค-7579 ขอนแก่น ขับมาอย่างมีพิรุธ และมีลักษณะตรงกับสายที่แจ้งมาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้รถยนต์ตรวจการณ์เข้าสกัดเพื่อขอตรวจค้น แต่คนร้ายพยายามขัดขืนและยิงปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนัด จึงเกิดการยิงตอบโต้กันนานกว่า 5 นาที ก่อนที่คนร้ายจะพยายามขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่
ในจังหวะนั้น พล.ต.ต.ศักดา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่งได้ใช้รถยนต์ปิดบริเวณสี่แยกไฟแดง ร.8 ห่างจากทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ประมาณ 2 กม.เพื่อสกัดจับ โดยเจ้าหน้าเปิดสัญญาณไฟแดงเพื่อหยุดรถ พ.ต.ท.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผกก.สส.ภ.จวขอนแก่น จึงตัดสินใจใช้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคันที่ไล่ติดตามมาปาดหน้าเพื่อสกัดรถของคนร้าย
ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัวนายวงศกร เวียงเพิ่ม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/9 ม.6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาทำการสอบสวน และขยายผลไปตรวจสอบที่ไร่เวียงสวรรค์ ไม่มีเลขที่ ริมถนนทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ในไร่ดังกล่าวมีเนื้อที่รวมกว่า 20 ไร่ มีการแบ่งสัดส่วนสำหรับเรือนรับรอง บ้านพักและจัดสรรพื้นที่ไว้โดยเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายวงศกรมาเพื่อตรวจค้นภายในห้องพัก โดยพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าใส่ไว้ในกระติกน้ำแข็ง ซุกซ่อนอยู่ในตะกร้า ในห้องนอนชั้น 2 ของตัวบ้าน 8,000 เม็ด และบรรจุอยู่ในถึงพลาสติก มัดติดอัดอยู่ในกล่องทรงกลม อีก 800 เม็ด นับรวมยาบ้าทั้งหมด 8,800 เม็ด
นอกจากนี้ยังพบยาไอซ์น้ำหนักรวม 30 กรัมซุกซ่อนอยู่ในตะกร้าเช่นกัน และจากการตรวจสอบโดยรอบของห้องพบอุปกรณ์สำหรับการเสพ เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล ถุงพลาสติกขนาดเล็กสำหรับแบ่งจำหน่าย รวมไปถึงอุปกรณ์การจำหน่ายและเสพเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงตรวจยึดปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอกสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ ซึ่งมีวงเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท 5 เล่ม รวมไปถึงการดำเนินการยึดทรัพย์ของนายวงศกรทั้งหมด
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้าและยาไอซ์ทั้งหมดรับมาจากนายนัท ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดของเครือข่ายภาคตะวันออกรายใหญ่ ก่อนนำมาขายให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียน และนักศึกษาในเขตจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง และกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเที่ยวตามสถานบันเทิงในช่วงเวลากลางคืน โดยยาไอซ์จะขายกรัมละประมาณ 2,500-3,000 บาท ยาบ้าขายที่เม็ดละ 400-500 บาท
ก่อนจะนำมาขายครั้งนี้ นายวงศกรเพิ่งพ้นโทษในข้อหาเสพและจำหน่ายยาเสพติดจากเรือนจำกลางขอนแก่นได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้จะประกอบอาชีพอะไรจึงตัดสินใจกลับมาค้ายาเสพติดเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ตามปกติ
พล.ต.ต.ศักดากล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามเบาะแสและข้อมูลทางการข่าวของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดจากภาคตะวันออกเริ่มขยายฐานการส่งจำหน่ายในภาคอีสานโดยใช้พื้นที่ จ.ขอนแก่น เป็นจุดศูนย์กลางกระจายสินค้า จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ค้ากลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสืบทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาซึ่งเพิ่งพ้นโทษในคดีค้าและเสพยาเสพติด โดยศาลพิพากษานายวงศกรจำคุก 7 ปี และเพิ่งจะพ้นโทษมาได้เพียง 7 เดือนเท่านั้นก็หวนหลับมาเข้าร่วมขบวนการค้ายาเสพติดอีกครั้ง จึงได้วางแผนเพื่อสกัดจับกุมได้ดังกล่าว พร้อมของกลางทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะเวลานี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ได้กำชับให้ 12 จังหวัดในภาคอีสานตอนบน ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 ได้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันจับกุมยาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะกลุ่มผู้ค้าทุกระดับอาจจะฉวยโอกาสในช่วงเทศกาลนำยาบ้าเข้ามาพักหรือจำหน่ายในพื้นที่ ขณะที่ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ถือเป็นรายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การจับกุมของขบวนการรายใหญ่ต่อไป
