ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล จาก 4 อำเภอของแม่ฮ่องสอน เข้าช่วยเหลือผู้อพยพเหยื่อไฟไหม้ศูนย์ฯ “แม่สุรินทร์” เพิ่ม ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก ทำยอดรวมคนถูกไฟคลอกดับพุ่งเป็น 40 รายแล้ว
หลังเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้เผาผลาญบ้านเรือนภายในศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ บ้านแม่สุรินทร์ ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ค่ำวานนี้ (22 มี.ค.) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น นายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการไปยังโรงพยาบาลศรีสังวาล แม่สะเรียง แม่ลาน้อย ปางมะผ้า จัดกำลังแพทย์ และพยาบาลเดินทางไปสมทบร่วมกับโรงพยาบาลขุนยวม ที่มีกำลังแพทย์ไม่เพียงพอเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวที่มีจำนวนมาก
ล่าสุด มีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ขุนยวม 2 ราย คือ นางพอริเซ ไม่มีชื่อสกุล นางหน่อแกเผอะ ไม่มีชื่อสกุล และส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 2 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ช.ชาเหน่ทู ไม่มีชื่อสกุล นายปาทุ ไม่มีชื่อสกุล นอกจากนี้ ยังมีนายทูเง ไม่มีชื่อสกุล ถูกส่งรักษาตัวที่ ร.พ.ศรีสังวาลย์ ด้วย และยังมีผู้ป่วยอยู่อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้อพยพที่เป็นผู้สูงอายุ
ด้าน พ.ต.ท.เดชา เผ่าหอม สว.สส.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน แจ้งว่า จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเปลวไฟไม่รู้ปลิวมาจากไหนตกใส่บ้านของนายจ๊ะปออู ไม่มีชื่อสกุล ทำให้เกิดการลุกไหม้อย่างรุนแรง แล้วลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียง ทำให้ผู้อพยพพากันแตกตื่นวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างโกลาหล คาดว่า น่าจะเป็นเปลวไฟจากไฟป่า ไม่ใช่เกิดจากการหุงต้มทำอาหารตามที่เป็นข่าว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งทหารพราน ทหารจาก ฉก.ร.7 อส. ตำรวจภูธร ดชต. ป่าไม้ ใช้กำลังประมาณ 100 นาย ระดมเข้าไปตรวจค้นหาผู้สูญหาย ล่าสุด พบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 32 ราย เป็น 40 รายแล้ว
ขณะที่ นางนฤมล ปาละวัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางเข้าไปบัญชาการ และเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มในเบื้องต้นไปแล้ว และในวันนี้ (23 มี.ค.) ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งแพทย์พยาบาล 4 อำเภอ เดินทางเข้าพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก
ด้าน นพ.ไพศาล ธัญญาวนิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 มี.ค.) ขณะที่มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการแล้ว 45 ราย แต่เนื่องจากพื้นที่เป็นหุบเขา ประกอบกับเหตุเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ยากลำบาก คาดว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอาจถึงประมาณ 60 ราย สำหรับผู้บาดเจ็บมีจำนวนทั้งสิ้นรวม 4 คน แบ่งเป็นผู้บาดเจ็บ สาหัส 2 คน มีบาดแผลจากเพลิงไหม้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ตามร่างกาย ส่งรักษา รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ ส่วนอีก 2 คน อาการไม่สาหัส มากมีบาดแผลเพลิงไหม้ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ส่งรักษา รพ.นครพิงค์ จ. เชียงใหม่ และ รพ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนผู้บาดเจ็บทั่วไปคาดว่ามีประมาณ 100 คน เนื่องจากความชุลมุน โกลาหลจากเหตุเพลิงไหม้ ทำให้มีวิ่งชนกัน เหยียบกันได้รับบาดเจ็บ และมีแผลถลอกตามร่างกาย
นพ.ไพศาล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล ไปผลัดเปลี่ยน 30 คน เพื่อช่วยดูแลผู้อพยพในศูนย์ร่วมกับทีมแพทย์ชาวพม่าในศูนย์อพยพ ทั้งนี้ ยังได้เตรียมน้ำดื่ม อาหาร และสุขาภิบาลเคลื่อนที่ไปดูแลเบื้องต้นก่อน ส่วนเรื่องการชันสูตรศพผู้อพยพในศูนย์ เบื้องต้นส่ง รพ.มหาราช และอาจขอกำลังแพทย์จากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจให้การสนับสนุน