พระนครศรีอยุธยา - การประปาพระนครศรีอยุธยา ยันภัยแล้งในกรุงเก่าไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา เนื่องจากยังมีแหล่งน้ำดิบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถึง 2 แหล่งทั้ง “แม่น้ำป่าสัก” และ “เจ้าพระยา” ขณะเดียวกัน หากจังหวัดใกล้เคียงต้องการน้ำเพิ่มสามารถร้องขอมาได้
นายธวัช ก้อนนาค ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา มีกำลังผลิตที่ใช้งาน 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปริมาณน้ำผลิตเกือบ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร จากจำนวนของผู้ใช้น้ำทั้งหมด 46,787 ราย ประกอบกับแหล่งน้ำดิบที่ใช้อยู่ทั้งจากแหล่งแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสัก สำนักโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยามีการรักษาระดับการปล่อยน้ำ จึงทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ตาม หากจังหวัดใกล้เคียงน้ำไม่เพียงพอก็สามารถติดต่อขอรับน้ำจากสาขาอยุธยาได้
“สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะไม่เกิดผลกระทบ เนื่องจากแหล่งน้ำดิบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 2 แหล่งคือ แหล่งแม่น้ำป่าสัก และเจ้าพระยา มีปริมาณพอเพียง ซึ่งแม่น้ำป่าสัก ทางชลประทานต้องปล่อยน้ำ และรักษาระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ทางดูดของ กปภ.สามารถดูดน้ำได้อยู่ คิดว่าปีนี้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะไม่มีผลกระทบ”
นายธวัช ก้อนนาค กล่าวต่อว่า เร็วๆ นี้ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา จะมาตั้งแหล่งผลิตน้ำที่บริเวณศูนย์หันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เนื่องจากเห็นว่าคุณภาพน้ำดิบในพื้นที่มีคุณภาพดี ซึ่งก่อนหน้านี้ มีแหล่งผลิตที่จังหวัดชลบุรี สระบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ และนครสวรรค์ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้น้ำ
นายธวัช ก้อนนาค ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา มีกำลังผลิตที่ใช้งาน 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปริมาณน้ำผลิตเกือบ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร จากจำนวนของผู้ใช้น้ำทั้งหมด 46,787 ราย ประกอบกับแหล่งน้ำดิบที่ใช้อยู่ทั้งจากแหล่งแม่น้ำเจ้าพระยา และป่าสัก สำนักโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยามีการรักษาระดับการปล่อยน้ำ จึงทำให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ตาม หากจังหวัดใกล้เคียงน้ำไม่เพียงพอก็สามารถติดต่อขอรับน้ำจากสาขาอยุธยาได้
“สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะไม่เกิดผลกระทบ เนื่องจากแหล่งน้ำดิบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 2 แหล่งคือ แหล่งแม่น้ำป่าสัก และเจ้าพระยา มีปริมาณพอเพียง ซึ่งแม่น้ำป่าสัก ทางชลประทานต้องปล่อยน้ำ และรักษาระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ทางดูดของ กปภ.สามารถดูดน้ำได้อยู่ คิดว่าปีนี้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะไม่มีผลกระทบ”
นายธวัช ก้อนนาค กล่าวต่อว่า เร็วๆ นี้ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา จะมาตั้งแหล่งผลิตน้ำที่บริเวณศูนย์หันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพิ่มอีก 1 แห่ง เนื่องจากเห็นว่าคุณภาพน้ำดิบในพื้นที่มีคุณภาพดี ซึ่งก่อนหน้านี้ มีแหล่งผลิตที่จังหวัดชลบุรี สระบุรี ราชบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ และนครสวรรค์ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้น้ำ