แม่น้ำป่าสักลดจนสันดอนโผล่คนลงไปเดินเล่นได้

พระนครศรีอยุธยา - สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคุกคามกรุงเก่า พบแม่น้ำป่าสักบริเวณหลังเขื่อนพระรามลดจนสันดอนโผล่ประชาชนสามารถลงไปเดินเล่นได้ ขณะเดียวกันพบว่าที่เขื่อนกันตลิ่ง “วัดศาลาลอย” มีการทรุดตัว

วันนี้ (30 ม.ค. 56) สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแนวโน้มหนักมากขึ้น โดยพบว่าที่บริเวณหลังเขื่อนพระรามหก ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำได้ลดลงอย่างมากจนมองเห็นสันดอนดินโผล่กลางแม่น้ำป่าสัก โดยเฉพาะตรงข้ามกับวัดสะตือ ประชาชนสามารถลงไปเดินในแม่น้ำได้

นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อถึงฤดูกาลนี้สภาพของน้ำในเขื่อนพระรามหกจะลดลงอย่างมาก ประกอบกับปริมาณน้ำในปี้นี้น้อย ทางเขื่อนพระรามหกจึงต้องมีการระบายน้ำ 9 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้สภาพของแม่น้ำป่าสักได้มีน้ำหล่อเลี้ยงเป็นการรักษาระบบนิเวศ

ส่วนการเดินเรือยันั้นงสามารถเดินได้เป็นปกติ เพราะแม่น้ำป่าสักนั้นขึ้นลงเพราะน้ำทะเลหนุน การที่บานประตูทั้ง 6 บานของเขื่อนพระรามหกปิดนั้นก็เพื่อระบายน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ไปให้เกษตรกรในพื้นที่ อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง อ.ภาชี อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงได้มีน้ำใช้ในภาคเกษตรกรรม หากเปิดเขื่อนพระรามหกจะทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำป่าสักแล้วไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นการสูญเปล่า

“ส่วนที่บริเวณหน้าวัดศาลาลอย หมู่ 11 ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าเขื่อนปูนซีเมนต์ที่สร้างกันแนวตลิ่งหน้าวัดศาลาลอย ระยะทางยาว 300 เมตร พบว่า แนวเขื่อนบางช่วงมีการเคลื่อนตัวจนทำให้ปูนซีเมนต์แยกตัวจากแนวเขื่อนที่เห็นได้ชัดบริเวณบันไดลงแม่น้ำ นอกจากนี้ยังพบว่าเข็มบางต้นเริ่มเอียงไปตามการสไลด์ตัวของดินลงไปในแม่น้ำ ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะพังลงไปในแม่น้ำป่าสัก จึงอยากให้ทางราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ประกอบกับระยะนี้น้ำในแม่น้ำป่าสักได้ลดลงมากดินอาจจะทรุดตัว ทำให้แนวเขื่อนพังลงได้”