กาญจนบุรี - ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ประสานตำรวจจับช้างเร่ร่อน 2 เชือกของตระกูล “ศาลางาม” แห่งเมืองสุรินทร์ หลังนำช้าง 2 เชือก เร่ขายผลไม้ที่เมืองกาญจน์ เบื้องต้น นำส่งบ้าน ช.ช้างชรา เพื่อตรวจสอบ
เมื่อเวลา 22.20 น.วันที่ 10 มี.ค.56 ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิผล นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 7 วันที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็นมีผู้นำช้าง 2 เชือก มาเร่ร่อนขายผลไม้ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ให้ช่วยกันออกติดตามเพื่อนำช้างมาตรวจสอบ
จนกระทั่งล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 มี.ค.56 ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพบเห็นช้างทั้ง 2 เชือก กำลังเร่ร่อนขายผลไม้อยู่ที่บริเวณตลาดนัดเจเจ ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี และเมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเห็นช้างทั้ง 2 เชือก จึงได้พยายามขอซื้อช้าง แต่ควาญช้างก็ไม่ยอมขาย ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยังนายแพทย์สามารถ ให้เดินทางมาตรวจสอบตั๋วรูปพรรณ จากนั้นมีนายเปลี่ยน ศาลางาม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 ต.หรองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้เดินทางมาแสดงตัวเป็นเจ้าของช้างทั้ง 2 เชือก พร้อมทั้งนำตั๋วรูปพรรณมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ช้างทั้ง 2 เชือกมีตั๋วรูปพรรณที่ถูกต้อง แต่ไม่สามารถนำใบเอกสารในการขออนุญาตเคลื่อนย้ายช้างมาแสดงได้ โดยช้างเป็นเพศผู้ อายุ 3 ปี 1 เชือก และเป็นช้างเพศเมีย อายุ 6 ปี 1 เชือก เบื้องต้น นายสัตวแพทย์สามารถ ได้ให้เจ้าของช้างนำช้างไปไว้ที่บ้าน ช.ช้างชรา หมู่ 4 บ้านหนองหอย ต.วังด้ง จ.กาญจนบุรี เพื่อรอการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำช้างทั้ง 2 เชือกไปไว้ที่ด้านหลังจุดตรวจดอนรักษ์ ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งได้ทำการบันทึกภาพทั้งภาพวิดีโอ และภาพนิ่งเก็บไว้ ภายหลังทราบว่าชาวต่างชาติทั้งหมดเป็นสื่อมวลชนจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ซึ่งในวันนี้ (11 มี.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น. ที่บ้าน ช.ช้างชรา ที่มีนายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิผล เป็นผู้ดูแล ท่านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย จะเดินทางมายังสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อมาดู และสังเกตการณ์เรื่องราวของช้างในประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ เจ้าของช้างทั้ง 2 เชือกยังเป็นของตระกูล “ศาลางาม” อีกด้วย โดยตระกูลดังกล่าวมีอาชีพเลี้ยงช้างที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก