เพชรบุรี - “พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี” ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงเพชรบุรีตรวจสอบช้างป่าเพศเมียถูกยิงเสียชีวิต ผ่าพิสูจน์ซากช้างหาหัวกระสุน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ทีมสืบภาค 7 ร่วมกับสืบจังหวัดเพชรบุรีลงพื้นที่หาข่าวเพื่อตามหาลูกช้างกลับคืนมา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางมายัง อบต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีพบช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 7 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณกลางป่าพื้นที่ลำห้วยตะเมาะ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ห่างจากอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ประมาณ 3 กิโลเมตรและได้รับฟังการบรรยายสรุปชี้แจงรายละเอียด โดยมีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจงข้อมูล
หลังจากนั้น จึงเดินทางเข้าจุดที่ช้างถูกยิงตาย พร้อมด้วยคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี
เมื่อไปถึงได้ดำเนินการชำแหละซากช้างเพื่อค้นหาหัวกระสุน และลูกช้างที่คาดว่าน่าจะยังอยู่ในท้อง แต่หลังจากที่ผ่าไปแล้วไม่พบลูกช้างโดยทำการชำแหละเอาชิ้นเนื้อต่างๆ ออกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับใช้เครื่องแสกนหาวัตถุตรวจในชิ้นเนื้อช้างเพื่อหาหัวกระสุน แต่ก็ยังไม่พบ โดยจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้
ทั้งนี้ ได้นำเนื้อช้างที่ถูกชำแหละแล้วตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติไปทำการฝังกลบทันทีเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค ส่วนซากช้างที่เหลือหากดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วจะลายโดยใช้วิธีการเผาทันที เนื่องจากป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เพราะบริเวณดังกล่าวมีบ่อน้ำที่เป็นแหล่งต้นน้ำสำหรับสัตว์ป่า
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า หลังจากการผ่าท้องช้างแล้วไม่พบลูกช้างในท้อง จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เร่งสืบสวนติดตามลูกช้างที่คาดว่าน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ โดยให้ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่กองกำลัง ฉก.ทัพพระยาเสือ ออกทำการตรวจค้นแหล่งต้องสงสัยทุกพื้นที่เพื่อกดดันให้ผู้ที่นำลูกช้างไป นำลูกช้างมาส่งคืน เบื้องต้น ให้เพ่งเล็งไปยังกลุ่มเดิมที่เคยมีประวัติล่าช้าง และทำการตรวจเข้มบริเวณจุดทางเข้าออกพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่สามารถเดินเท้าเชื่อมต่อมายังพื้นที่ป่าเด็ง อ.แก่งกระจานได้
ส่วนตัวช้างที่พบเมื่อวานนี้ช่วงหัวค่ำ ที่พบว่ามีอาการเซื่องซึมโดยคาดว่าน่าน่าจะเกิดจากการบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยเองนั้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออกติดตามช้างตัวดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเน้นเฝ้าดูบริเวณแอ่งน้ำในพื้นที่หมู่ 7 บ้านป่าเด็ง 2 จุด เนื่องจากช้างโขลงดังกล่าวจะเดินมาดื่มน้ำในจุดดังกล่าวเป็นประจำ หากพบช้างก็จะทำการยิงยาสลบเพื่อที่จะให้สัตวแพทย์เข้าทำการช่วยเหลือ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ผ่าพิสูจน์หาหัวกระสุน และพบแล้วบริเวณหัวกะโหลกด้านซ้าย เป็นกระสุนปืนไรเฟิล
อนึ่ง สำหรับกรณีที่พบช้างถูกยิงตายเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายอรรถพล แจ้งเรือง นายก อบต.ป่าเด็ง ได้รับแจ้งจาก นายจอปี ชาวบ้านในพื้นที่ว่าพบช้างนอนตายอยู่ในสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นบริเวณลำห้วยตะเมาะ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี ห่างจากอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ประมาณ 3 กิโลเมตร จึงได้แจ้งไปยังนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน เพื่อรับทราบ พร้อมกับนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่รับแจ้ง
โดยเส้นทางจุดที่ช้างตายต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 45 นาที จึงพบช้างนอนตายจริงตามที่รับแจ้งอยู่ในสภาพนอนตะแคงด้านซ้าย ขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น จากการตรวจสอบพบเป็นช้างเพศเมีย อายุไม่เกิน 10 ปี มีร่องรอยเป็นรูหลายแห่งทั้งบริเวณหน้าขา และชายโครง โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ซาก โดยขณะที่กำลังตรวจพิสูจน์เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้พบอาวุธปืนแก๊ปยาวพาดวางอยู่บนยอดไม้ของต้นทลายเขา ที่ระยะสูงจากโคนต้นประมาณ 5 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นพบว่าเป็นอาวุธปืนแก๊ปยาวสภาพเก่า ซึ่งคาดว่าเจ้าของปืนน่าจะนำมาวางพาดไว้ยิงสัตว์ป่าที่มากินน้ำในแอ่งน้ำที่อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ ยังพบกองไฟ และซองกาแฟอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุจะต้องมีการจุดไฟเพื่อซุ่มรอดักยิงช้างอย่างแน่นอน
อีกทั้งได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ ชื่อนายจอไป่ และนายวิรัช หรือจอแอะ เวนะ ที่เป็นพี่น้องกัน พร้อมอาวุธปืนแก๊ปยาวสำหรับใช้ล่าสัตว์ 2 กระบอก กบทูตพร้อมซาก และเสบียงจำนวนหนึ่ง ที่จับกุมได้ขณะกำลังเดินออกจากผืนป่าห้วยคมกริช-ห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบช้างตายไม่มากนัก โดยทั้งสองบอกว่า เข้ามาล่าสัตว์ป่าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งนานเกินไปตามหลักวิสัยของการเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ โดยคาดว่าทั้งสองน่าจะเป็นคนชี้เป้าให้แก่อีกกลุ่มที่เป็นผู้ลงมือยิงช้าง