xs
xsm
sm
md
lg

ศพฐ.7 พร้อมสัตวแพทย์ลงตรวจซากช้างหาหลักฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เพชรบุรี- เจ้าหน้าที่ ศพฐ.7 พร้อมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ตรวจซากช้างหาหลักฐาน ระบุช้างถูกยิงตาย และพบอาวุธปืนแก๊ปยาววางพาดกิ่งไม้ใกล้ซากช้าง

ความคืบหน้ากรณีพบช้างป่านอนตายอยู่กลางป่าในสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นบริเวณลำห้วยตะเมาะ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ห่างจากอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยในเบื้องต้นพบว่า เป็นช้างเพศเมีย อายุประมาณ 7 ปี จากการตรวจสอบพบว่า มีร่องรอยถูกยิงเป็นรูหลายแห่ง เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันนี้ (9 มี.ค.) พ.ต.อ.วิศิษย์ ศิริสหวัฒน์ รอง ผบก.ศพฐ.7 นำทีม พ.ต.อ.ดิเรก ธนานนท์นิวาส นวท. (สบ 4) กสก. ศพฐ.7 พ.ต.ต.วุฒิศักดิ์ ศรีบุญราษฎร์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 2) กลุ่มงานตรวจอาวุธปืน พ.ต.ท.หญิงเอกจิตตรา มีไชยธร นวท. (สบ 3) พฐ.จว.เพชรบุรี พ.อ.อดิศร โครพ ผบ.ฉก.ทัพพระยาเสือ นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ นายจรัส แป้นทอง ปศุสัตว์อำเภอแก่งกระจาน นายกรรัตน์ คุ้มกระ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษสำนักงานปศุสัตว์เพชรบุรี สัตวแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมคุณ สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายขจรศักดิ์ สมบูรณ์ นายอำเภอแก่งกระจาน ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้าตรวจสอบช้างตายบริเวณจุดที่พบ ซึ่งการเดินทางจะต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปนานกว่า 1 ชั่วโมง จากทางเข้าไปจนถึงจุดเกิดเหตุ โดยเส้นทางค่อนข้างลำบากต้องผ่านหุบเขา และลำห้วยแห้งเข้าไป

โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และสัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสอบซากช้างซึ่งพบว่ามีรอยถูกยิงจนเป็นรูเข้าบริเวณหน้าขาขวา 1 แห่ง และศีรษะอีก 1 แห่ง แต่ยังมีร่องรอยถูกยิงอีกหลายแห่งซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้เนื่องจากซากช้างกำลังบวมขึ้นอืดเต็มที่ จึงได้ทำการผ่าตรวจพิสูจน์ซากเพื่อหาหัวกระสุนบริเวณที่มองเห็นรูที่ถูกยิง ที่คาดว่าน่าจะฝังอยู่ในตัวช้าง แต่ก็ยังไม่พบ

ทั้งนี้ ขณะพิสูจน์ซากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้พบอาวุธปืนแก๊ปยาวพาดวางอยู่บนยอดไม้ของต้นทลายเขา ที่ระยะสูงจากโคนต้นประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรีจึงได้ปีนขึ้นไปเพื่อนำอาวุธปืนลงมาเพื่อนำไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า เป็นอาวุธปืนแก๊ปยาวสภาพเก่า ซึ่งคาดว่าเจ้าของปืนน่าจะนำมาวางพาดไว้ยิงสัตว์ป่าที่มากินน้ำในแอ่งน้ำที่อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ ยังพบกองไฟ และซองกาแฟอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุจะต้องมีการจุดไฟเพื่อซุ่มรอดักยิงช้างอย่างแน่นอน

โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า เบื้องต้นอาวุธปืนที่พบคาดว่าน่าจะเป็นของชาวปกาเกอะญอ ที่ลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ป่าแต่คาดว่าไม่น่าจะเป็นอาวุธปืนที่ใช้ยิงช้างป่าเพศเมียตัวที่เสียชีวิต โดยคาดว่าอาวุธปืนที่ใช้สำหรับยิงช้างน่าจะเป็นอาวุธปืนยิงเร็วประเภทปืนคาร์บิน แต่คาดว่าน่าจะเป็นของกลุ่มเดียวกันกับที่เข้ามาลักลอบยิงช้าง

ทั้งนี้ ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ซึ่งเป็นชาวปกากอะญอ ชื่อนายจอไป่ และนายจอแอะ ที่เป็นพี่น้องกัน พร้อมอาวุธปืนแก๊ปยาวสำหรับใช้ล่าสัตว์ 2 กระบอก กบทูตพร้อมซาก และเสบียงจำนวนหนึ่ง ที่จับกุมได้ขณะกำลังเดินออกจากผืนป่าห้วยคมกริช-ห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบช้างตายไม่มากนัก โดยพบเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ ผ่านมา โดยทั้งสองบอกว่า เข้ามาล่าสัตว์ป่าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งนานเกินไปตามหลักวิสัยของการเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ โดยคาดว่าทั้งสองน่าจะเป็นคนชี้เป้าให้แก่อีกกลุ่มที่เป็นผู้ลงมือยิงช้าง โดยกรณีดังกล่าวคาดว่าเกือบ 100% น่าจะเป็นการยิงแม่ช้างเพื่อเอาลูกช้าง ทั้งนี้ เมื่อได้ลูกช้างก็จะนำช้างเดินไปตามร่องน้ำของหุบเขาจนไปทะลุหมู่บ้านปกาเกอะญอ ในเขตพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และจะมีนายทุนที่ว่าจ้างมารับลูกช้างไปอีกทอด

ทั้งนี้ จะต้องแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้การลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ป่าได้อีกสิ่งแรกจะต้องจำกัดเวลาที่บุคคลจะเข้ามาให้พื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 และอีกวิธีการหนึ่งคือ ต้องให้นายหลีที่อาศัยอยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำออกไปอยู่พื้นที่อื่นที่ห่างจากลำห้วย เพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะอ้างว่าเข้ามาหานายหลี จึงไม่มีการตรวจสอบอย่างรัดกุม

ส่วนซากช้างจะต้องมีการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด และจะต้องเร่งดำเนินการทำลายซากช้างโดยมีอยู่ 2 วิธี คือ ฝัง เผา ซึ่งจากการดูพื้นที่แล้ว การฝังจะยุ่งยากเนื่องจากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย มีหินจำนวนมากจึงไม่สามารถทำการขุดหลุมเพื่อนำช้างไปฝังได้ แต่วิธีการเผาเห็นจะดีที่สุดในการทำลายซากช้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น