เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าช่วยช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บลำบากเพราะยังดุร้าย

จันทบุรี-เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมเข้าช่วยเหลือช้างป่าที่บาดเจ็บบริเวณใต้ตาขวา และมีหนอง แต่เป็นไปได้ยากเพราะช้างป่านิสัยดุร้าย

วันนี้ (5 มี.ค.) ความคืบหน้ากรณีช้างป่าได้รับบาดเจ็บนั้น โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.ขุนซ่อง อ. แก่งหางแมว จ.จันทบุรี และพบกับนายเสนอ ทรงอยู่ หัวหน้าป่าไม้แก่งหางแมว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวว่า กรณีช้างป่าเพศผู้ หรือช้างหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำ และมีน้ำหนองไหลออกมาบริเวณใต้ตาขวานั้น ตนยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ช้างหนุ่มได้รับบาดเจ็บเกิดจากสาเหตุใด

เบื้องต้น ได้ประสานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดดูแลช้างป่าลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการรักษาช้างหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว และคาดว่าเจ้าหน้าที่ชุดดูแลช้างจะสามารถลงทำการตรวจสอบ และเช็กพิกัดช้างหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บได้ เนื่องจากช้างหนุ่มตัวนี้ยังคงลงมากินอาหาร คือ สับปะรดที่ชาวบ้านเทกองไว้ให้เกือบทุกวัน

นายเสนอ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการจะนำตัวช้างป่า หรือช้างหนุ่มไปทำการรักษานั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากช้างป่ามีนิสัยดุร้าย และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับได้โดยง่ายแต่อย่างใด ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดดูแลช้างทำได้แต่เพียงการเฝ้าดูแล และติดตามช้างหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บได้เท่านั้น

จากการดูภาพถ่ายพบว่า บาดแผลยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก เพราะช้างหนุ่มตัวนี้ยังมีสภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ สามารถเดินมากินอาหารที่ชาวบ้านเทกองไว้ให้ได้ ส่วนทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะมีแผนดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นตนไม่ทราบ แต่ทั้งนี้อาจเป็นไปได้คือ การใช้ยาสลบยิงเข้าใส่ช้างหนุ่มตัวนี้ และจับมารักษา ทำการล้างแผลให้หายขาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือการแพร่ระบาดไปติดช้างตัวอื่น

สำหรับการติดตามช้างป่า หรือช้างหนุ่มตัวนี้สามารถทำได้ยาก และเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ เพราะช้างป่าจะอยู่ไม่เป็นที่ และจะย้ายถิ่นฐานหากินไปตลอด หากพื้นที่ไหนไม่มีอาหาร ช้างป่าก็จะต้องไปหากินในพื้นที่อื่นต่อไป รวมทั้งการจะขึ้นไปยิงยาสลบใส่ช้างป่านั้นเจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงกับการเผชิญหน้ากับโขลงช้างป่าที่อาศัยอยู่บนเขาอีกด้วย