นครพนม - นรข.บ้านแพง นครพนม โชว์ผลงานสกัดใบยาสูบเถื่อนจากจีน น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 30,000 บาท ทะลักข้ามโขงเข้าที่อำเภอบ้านแพง จ.นครพนม พร้อมรวบรถกระบะขนไม้พะยูงกว่า 18 ท่อนมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทได้ในวันเดียวกัน
วันนี้ (3 มี.ค. 56) ที่สถานีเรือ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) อ.บ้านแพง จ.นครพนม น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม พร้อมด้วย ร.อ.เดโชพล ป้องจันทร์ หัวหน้าสถานีเรือน รข. อ.บ้านแพง จ.นครพนม ได้ตรวจยึดใบยาสูบอบแห้งบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ขณะมีการลักลอบนำเข้ามาในเขตตำบลบ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม แต่เจ้าของสามารถหลบหนีไปได้
จากตรวจสอบพบเป็นใบยาสูบอบแห้งจำนวน 10 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละประมาณ 30 กิโลกรัม รวมประมาณ 300 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งมีการลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมายจึงยึดมาตรวจสอบ
ผบ.นรข.เขตนครพนม กล่าวว่า ใบยาสูบที่ทะลักข้ามโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นใบยาแห้งจากประเทศจีนราคากิโลกรัมละ 60-80 บาท เมื่อถึงฝั่งไทย พ่อค้าจะนำไปผลิตเป็นยาสูบบรรจุถุงที่ชาวบ้านในชนบทนิยมมวนสูบ ซึ่งพ่อค้าถ้าซื้อใบยาสูบที่ปลูกในฝั่งไทยจะมีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 300 บาท โดย นรข.ได้ประสานงานกับตำรวจท้องที่ สรรพสามิต และศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดสกัดจับกุมต่อเนื่อง ซึ่งแนวโน้มการลักลอบใบยาสูบเข้ามาเชื่อว่ามีแนวโน้มมากขึ้น
วันเดียวกันนี้ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม (นรข.) นำโดย น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม พร้อมด้วย ร.อ.ประเสริฐ พุทรา หัวหน้าสถานีเรือ นรข.นครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค -926หนองคาย ภายในบรรทุกไม้พะยูงแปรรูป 18 ท่อน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร หน้ากว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ตรวจยึดหลังสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงขนส่งไม้พะยูงมาลงเรือข้ามไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านในเขต ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม กระทั่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบรถยนต์กระบะสปอร์ตไรเดอร์ จอดทิ้งไว้ข้างถนนในพื้นที่บ้านกกไฮ ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม แต่ไม่พบเจ้าของจึงยึดมาตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติลำเลียงขนส่งมารอลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ใช้วิธีจอดทิ้งรถรอการขนส่งต่อเพื่อเลี่ยงการจับกุม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนขยายผลติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป