มุกดาหาร - กองปราบปรามลุยพื้นที่มุกดาหารยึดไม้พะยูง 42 ท่อน จากการตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เผยซุกซ่อนไว้ก่อนเตรียมส่งต่อนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (17 ก.พ.) พ.ต.ต.อาทิตย์ พรหมนอก สว.กก.3 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สุพิศาล ภัคดีนฤนาถ ผบก.ป.ให้นำ ร.ต.ต.จตุพงษ์ หงส์กาญจนพงพงษ์ รอง สว.กก.3 บก.ป. และกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากได้รับรายงานจากสายว่า มีกลุ่มนายทุนใหญ่ ว่าจ้างให้ชาวบ้านลักลอบตัดไม้และรับซื้อไม้พะยูงและไม้หวงห้ามชนิดต่างๆ จากเขตอุทยานแห่งชาติภูผายลเทือกเขาภูพาน ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง จ.นครพนม จ.มุกดาหาร และ จ.สกลนคร ในราคาที่สูงมาก โดยใช้พื้นที่ตามภูมิประเทศเป็นแหล่งซุกซ่อนไว้เพื่อรอการขนย้ายข้ามโขง ส่งต่อให้กับนายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน
หลังจากชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มลักลอบนำไม้มาซุกซ่อนบริเวณป่าละเมาะข้างหนองน้ำสาธารณประโยชน์ หมู่ 1 ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร และจะมีนายทุนชาวลาวข้ามมารับซื้อต่อไปอีกที จึงได้ผสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หว้านใหญ่ เข้าทำการดักซุ่มเพื่อรอจังหวะเข้าทำการจับกุมแต่ผู้ค้าไม้ได้เกิดไหวตัวทันไม่ยอมเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้นำเข้าตรวจสอบพบไม้พะยูงซุกซ่อนในป่าละเมาะข้างหนองน้ำจำนวน 23 ท่อน/เหลี่ยม ตรวจสอบไม่มีรอยดวงตราของทางราชการแต่อย่างไร จึงได้ทำการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีกราย เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้รับรายงานว่ามีการลักลอบขนไม้พะยูงมาซุกซ่อนที่โกดังเลขที่ 157 หมู่ 2 ตำบลบางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงได้ทำการขอหมายค้นที่ ค.56/2556 เข้าทำการตรวจบ้านเลขที่ดังกล่าว ได้พบนายอภิชาต มณีสาย บ้านเลขที่ 90 ต.ดงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ แสดงตัวเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมหมายค้นเพื่อตรวจสอบบริเวณในโกดัง พบไม้พะยูงจำนวน 19 ท่อน/เหลี่ยม วางกองรวมกันอยู่ที่พื้นดินโดยมีผ้าคุมอยู่ด้านหลังบ้านภายในบริเวณบ้าน จึงได้ทำการตรวจสอบไม้ดังกล่าวไม่พบรอบดวงตราของเจ้าพนักงานที่ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้
เมื่อสอบถามนายอภิชาตทราบว่า ไม้ดังกล่าวเป็นของนางวาสนา มูลพรม ซึ่งเป็นแม่ยายและเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มีความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต, มาตรา 69 มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 70 ฐานรับไว้ด้วยประการใดๆ ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น
จากนั้นจึงได้นำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมมูลค่าไม้พะยูงที่ยึดได้ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
