กาญจนบุรี - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ จับชายวัย 26 ปี ชาวกาญจนบุรี ลักลอบตัดไม้ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อ้างนำไปเผาถ่าน ตรวจสอบพบตัดส่งขายโรงงานปุ๋ย ราคาตันละ 800-1000 บาท ประวัติเคยโดนจับพร้อมพ่อมาแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (21 ก.พ.) นายประดุง จิตระออน หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ ต.หนองญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อไปถึงบริเวณพื้นที่ป่านาคราช หมู่ 7 ต.หนองหญ้า ปรากฏว่า ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ดังมาแต่ไกล เจ้าหน้าที่จึงได้เดินไปตามเสียงที่ได้ยิน
กระทั่งพบว่า มีคนกำลังทำการตัดต้นไม้อยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมบุคคลดังกล่าวได้พร้อมของกลางเลื่อยยนต์ไม่มีทะเบียน และเลื่อยธนู ที่ใช้ตัดต้นไม้อย่างละ 1 ตัว ปืนแก๊ป 1 กระบอก ต้นตะโก และไม้กระยาเลย ที่ถูกตัดทอนเป็นท่อนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สภาพเก่า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บบ 5031 กาญจนบุรี ทราบชื่อผู้ต้องหา คือ นายบุญรอด จันทร์ดี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270/1 หมู่ 5 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี มาคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของกลางทั้งหมดนำมาเก็บรักษาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์
นายประดุง เปิดเผยต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมในคดีเดียวกันเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนรถยนต์ของกลางเคยถูกเจ้าหน้าที่ยึดเป็นของกลางมาแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ยังพบว่าบิดาของผู้ต้องหาก็เคยถูกจับกุมมาแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไม้ที่ตัดมาเพียงแค่จะนำไปเผาถ่านเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการตรวจสอบชนิดของไม้ และติดตามดูพฤติกรรมของผู้ต้องหาในอดีตที่ผ่านมา พบว่า ไม้ทั้งหมดจะนำไปขายให้แก่โรงงานผลิตปุ๋ยที่อยู่ในพื้นที่ หรือไม่ก็นำไปขายให้แก่ลานรับซื้อไม้ท่อน ซึ่งขายในราคาตันละ 800 ถึง 1,000 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่บุคคลเหล่านี้เป็นอย่างดี
“ผมจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และจะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานปุ๋ยที่รับซื้อไม้ท่อน รวมทั้งลานรับซื้อไม้ท่อนต่อไป เพราะเชื่อว่าทั้งโรงงานผลิตปุ๋ย และลานรับซื้อไม้ท่อนจะเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนลักลอบตัดไม้เพื่อนำไปขาย เพราะได้ราคาที่สูง”