หนองคาย - ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านใน ต.พระธาตุบังพวน สุดทนฟาร์มไก่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนนานเกือบครึ่งปีไม่มีการแก้ไข ยื่นหนังสือขอผู้ว่าฯ ช่วย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (21 ก.พ.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย ชาวบ้านโคกคำ บ้านทุ่งสว่าง และบ้านพระธาตุบังพวน ต.พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย ประมาณ 100 คน ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากนายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากฟาร์มไก่ของนายคำรัก และนางมาลี ศรีเชียงหวาง สองสามีภรรยา ที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านมานาน มีนายกิตติคุณ บุตรคุณ ป้องกันจังหวัดมารับเรื่องแทน
นายคอนสวรรค์ คะสุนทร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 14 ต.พระธาตุบังพวน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระธาตุบังพวน กล่าวว่า นายคำรักและนางมาลีทำฟาร์มเลี้ยงไก่ 15,000 ตัว ในหมู่บ้านโคกคำ และยังมีพื้นที่ติดกับหมู่บ้านทุ่งสว่าง และหมู่บ้านพระธาตุบังพวน ซึ่งมูลไก่ในฟาร์มส่งกลิ่นเหม็น เวลาลมพัดกลิ่นเหม็นจะคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนชาวบ้านทนไม่ไหว
“เมื่อเดือนกันยายน 2555 เคยพูดคุยกับเจ้าของฟาร์มแล้วหลายครั้งขอให้ช่วยบริหารจัดการฟาร์มให้ดี แต่ก็ไม่ปรับปรุง ชาวบ้านเรียกร้องให้หลายหน่วยงานช่วยก็ยังไม่เป็นผล จึงได้รวมตัวกันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฯ และขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากทนกลิ่นเหม็นไม่ไหวแล้ว เพราะนับวันยิ่งจะรุนแรงมากขึ้น”
ด้านนายกิตติคุณกล่าวว่า จะเชิญตัวแทนชาวบ้าน ปศุสัตว์จังหวัด, สาธารณสุขจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และเจ้าของฟาร์มไก่มาหาทางออกร่วมกัน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (21 ก.พ.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย ชาวบ้านโคกคำ บ้านทุ่งสว่าง และบ้านพระธาตุบังพวน ต.พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย ประมาณ 100 คน ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากนายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากฟาร์มไก่ของนายคำรัก และนางมาลี ศรีเชียงหวาง สองสามีภรรยา ที่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านมานาน มีนายกิตติคุณ บุตรคุณ ป้องกันจังหวัดมารับเรื่องแทน
นายคอนสวรรค์ คะสุนทร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 14 ต.พระธาตุบังพวน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พระธาตุบังพวน กล่าวว่า นายคำรักและนางมาลีทำฟาร์มเลี้ยงไก่ 15,000 ตัว ในหมู่บ้านโคกคำ และยังมีพื้นที่ติดกับหมู่บ้านทุ่งสว่าง และหมู่บ้านพระธาตุบังพวน ซึ่งมูลไก่ในฟาร์มส่งกลิ่นเหม็น เวลาลมพัดกลิ่นเหม็นจะคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนชาวบ้านทนไม่ไหว
“เมื่อเดือนกันยายน 2555 เคยพูดคุยกับเจ้าของฟาร์มแล้วหลายครั้งขอให้ช่วยบริหารจัดการฟาร์มให้ดี แต่ก็ไม่ปรับปรุง ชาวบ้านเรียกร้องให้หลายหน่วยงานช่วยก็ยังไม่เป็นผล จึงได้รวมตัวกันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฯ และขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากทนกลิ่นเหม็นไม่ไหวแล้ว เพราะนับวันยิ่งจะรุนแรงมากขึ้น”
ด้านนายกิตติคุณกล่าวว่า จะเชิญตัวแทนชาวบ้าน ปศุสัตว์จังหวัด, สาธารณสุขจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และเจ้าของฟาร์มไก่มาหาทางออกร่วมกัน