ตราด - นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์แขนขวาพิการ ซิ่งจักรยานยนต์แหกโค้งเฉี่ยวชนรถตู้อาการสาหัส ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวบนเกาะช้าง
วันนี้ (19 ก.พ.) ร.ต.อ.คงเดช โสวภาส พนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้รับแจ้งว่าได้เกิดอุบัติเหตุมีนักท่องเที่ยวขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถตู้อาการสาหัส อยู่ในที่เกิดเหตุ บนถนนสายด่านใหม่-สลักเพชร บริเวณจุดชมวิวโค้งอ่าวผีหลอก ม.1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด
หลังได้รับแจ้งจึงประสานไปยังศูนย์วิทยุอาสาสมัครสมาคมกู้ภัยบุญช่วยเหลือเขต อ.เกาะช้าง และรถพยาบาลของหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รพ.เกาะช้าง รีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ MR.ROY LiNDBLAD อายุ 52 ปี เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาตินอร์เวย์ แขนข้างขวาพิการถูกตัดขาดที่ข้อมือ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่หัว และตามลำตัว ขาขวา เลือดไหลออกมาไม่ยอมหยุด นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินจึงช่วยปฐมพยาบาลรักษาบาดแผลในเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวขึ้นรถพยาบาลส่งไปรักษาตัวยัง รพ.เกาะช้าง
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นฮายาเต้ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน จตก 644 ชลบุรี สภาพด้านหน้าและตัวถังพังยับเยิน โช้กหักทั้งสองข้างล้มอยู่ข้างทาง ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร พบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน นก 3780 จันทบุรี สภาพไฟหน้าด้านข้างขวาแตก ตัวถังยุบ
นายณัฐพงษ์ ภานุเพ็ญ อายุ 36 ปีคนขับรถตู้ได้กล่าวให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังขับขี่รถตู้มุ่งหน้าจากท่าเรือเฟอรี่ไปทางบ้านสลักเพชร เพื่อจะไปส่งลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รีสอร์ตเดอะสปาร์เกาะช้าง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ได้มีรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวดังกล่าววิ่งสวนทางมาด้วยความเร็ว เกิดแหกโค้งเข้าเลนมาแล้วเฉี่ยวชนกับรถตู้ที่ตนเองขับขี่อย่างแรง จนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเสียหลักล้มลง คนขับกระเด็นร่างกระแทกกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับรถตู้คันดังกล่าวหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน
ส่วนอาการของ MR.ROY LiNDBLAD แพทย์ของ รพ.เกาะช้างได้เปิดเผยว่า แขนที่พิการข้างขวานั้นได้หัก และมีแผลบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งเสียเลือดมาก จึงส่งต่อไปรักษายัง รพ.ตราด ที่มีเครื่องมือที่พร้อมกว่า
สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวบนเกาะช้างนั้นมีมากกว่า 3-4 ครั้ง/วัน ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาทใช้ความเร็วสูง ประกอบกับตัวนักท่องเที่ยวเองไม่มีความชำนาญในเส้นทางอีกด้วย