ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รถตู้ “ผอ.สพป.” นครราชสีมา เขต 1 ซิ่งพุ่งชน จยย.พังยับเยินล้อหลุด สาวบัญชีเจ็บสาหัส 1 ราย ส่วน ผอ.สพป.ที่นั่งมาในรถปลอดภัย ด้านคนขับรถตู้รอมอบตัวกับ ตร. ยอมรับขับเร็วมุ่งเข้าเมืองโคราช ขณะถึงจุดกลับรถไม่ทันระวัง เจอจยย.เลี้ยวกระชั้นชิดจึงชนอย่าง
วันนี้ (13 พ.ย.) พ.ต.ต. ประยุทธ แพปรุ สารวัตรเวร สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณจุดกลับรถหน้าปั๊มแก๊สบ้านดอนขวาง ถ.ราชสีมา-จักราช ต.หัวทะเล อ.เมืองจ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน และรถพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ในที่เกิดเหตุพบรถตู้ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นค 6609 นครราชสีมา ด้านข้างรถติดสติ๊กเกอร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 (สพป.นม.1) สภาพด้านหน้าซ้ายมีร่องรอยชนอย่างแรงได้รับความเสียหาย โดยที่บริเวณพวงมาลัยคนขับ มีถุงนิรภัยกองอยู่ ห่างไปเล็กน้อยพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขขฉ 55 บุรีรัมย์ ล้มอยู่ในสภาพพังยับเยินล้อหลุดออกจากกัน ใกล้กันพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พิมพิชช์ หะกระโทก อายุ 23 ปี พนักงานบัญชีของบริษัท เคเซเว่น บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด คนขับจักรยานยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
จากการสอบสวน นายจักรพันธ์ เคนไชยวงศ์ อายุ 50 ปี คนขับรถตู้คันเกิดเหตุ ให้การว่า ได้ขับรถตู้มาจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 โดยมี นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 นั่งมาด้วย เพื่อไปราชการในตัวเมืองนครราชสีมา ขณะขับรถมาด้วยความเร็ว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นจุดกลับรถไม่ทันสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ที่เลี้ยวมาในระยะกระชั้นชิด จึงพุ่งชนอย่างแรง จนทำให้คนขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
ส่วนตนโชคดีที่ขณะเกิดเหตุถุงลมนิรภัยทำงานจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ และ นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เพียงแต่ตกใจกับเหตุการณ์เท่านั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ประสานให้สำนักงานฯ จัดรถตู้มารับผู้อำนวยการเพื่อไปราชการตามเดิม ส่วนตนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป