ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแปดริ้วอยากช่วยเตือนภัยผู้ใช้รถใช้ถนนที่บรรทุกสูงเกินกว่าขนาดพิกัดความจุ หลังเกิดเหตุการณ์สยองได้พยายามติดตามถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้โดยตลอดอย่างต่อเนื่อง หวังฝากไว้ให้เป็นอุทาหรณ์แก่สังคม เพื่อป้องกันไม่ให้มามีจุดจบลงเอยเป็นแบบเดียวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
วันนี้ (19 ก.พ.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสุรพีร์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ม.5 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทำการค้าขายอยู่ที่บริเวณริมถนนสายบางบ่อ-แปลงยาวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ระทึกใจที่ชาวบ้านยังคงเห็นภาพติดตา และเป็นที่โจษขานกันในหมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.56 เวลา 16.30 น.ได้เกิดเหตุรถยนต์บรรทุกฟางข้าวที่อัดบีบกันเป็นก้อนไว้สำหรับเลี้ยงสัตว์ และได้ทำการบรรทุกสูงมาจนเต็มล้นคันรถ ด้วยการเทินก้อนฟางต่อยอดเลยขึ้นไปจนสูงเหนือขอบกระบะบรรทุกอีกถึงกว่า 2 เมตร ขับผ่านพื้นที่เข้ามา
แต่ขณะขับรถผ่านเส้นทางสายนี้ ก้อนฟางที่ถูกเทินสูงอยู่บนยอดไม่สามารถลอดผ่านสายไฟ และสายโทรศัพท์ รวมทั้งสายทางการสื่อสารอื่นๆ ที่พาดข้ามถนนขวางอยู่ได้ โดยที่ด้านบนรถคันนั้นได้มีเด็กติดท้ายรถนั่งมาอยู่บนก้อนฟางด้วย จำนวน 2 คน เพื่อเฝ้าคอยใช้ไม้ค้ำสายไฟที่รถจะขับผ่านให้สามารถเคลื่อนผ่านเส้นทางไปได้ แต่ขณะที่เด็กท้ายรถทั้งสองคนกำลังช่วยกันใช้ไม้ค้ำยกสายไฟขึ้นอยู่นั้น ได้เกิดมีประกายไฟขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการที่สายไฟซึ่งเคยมีรถบรรทุกสูง บรรทุกสินค้าต่างๆ ขับลอดผ่านเส้นทางมาเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะรถบรรทุกเครื่องจักรโรงงานที่จะถูกนำไปใช้ในเขตนิคมอุตสาหกรรมในบริเวณใกล้เคียงในย่านนี้ ขูดถูจนฉนวนเป็นรอยแผลถลอกไว้ จึงทำให้สายไฟที่เปลือกหุ้มเป็นแผลอยู่นั้นเกิดการช็อตกันขึ้น จึงทำให้เกิดเป็นประกายไฟ และตกใส่กองฟางที่บนตัวรถและได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ฟางที่บรรทุกมาในรถขึ้น ขณะที่เด็กรถทั้งสองคนได้พยายามที่จะผลักดันก้อนฟางที่ถูกไฟไหม้ให้ตกลงมาจากรถด้วยการใช้เท้าถีบลงมา แต่ไฟกลับลุกลามไปยังฟางก้อนอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นจนเต็มทั่วทั้งกระบะ
ขณะที่คนขับได้ชะลอรถ และให้คนซึ่งเป็นภรรยาของคนขับซึ่งนั่งมาด้วยในรถอีกคันที่ด้านหน้าลงจากรถ พร้อมด้วยเด็กรถที่อยู่ด้านท้ายทั้งสองคนได้พยายามที่จะวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โดยที่คนขับไม่ยอมที่จะหยุดรถ และขับต่อไปบนเส้นทางเรื่อยๆ ไกลถึงเกือบหนึ่ง กม. รถจึงเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนเข้ากับเสาไฟฟ้า และเกิดไฟลุกท่วมหมดทั้งคัน โดยที่คนขับนั้นไม่ได้หนีลงมาจากรถ จนถูกไฟไหม้คลอกเสียชีวิตในที่สุด
จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ ได้สร้างความสงสัยแคลงใจต่อชาวบ้านที่พบเห็นและมามุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก โดยหลายคนต่างพากันตั้งคำถามว่า เหตุใดคนขับจึงไม่ยอมหยุดรถ และหนีออกมาจากตัวรถที่กำลังถูกไฟไหม้ จนสุดท้ายต้องมาจบชีวิตลงในเหตุการณ์ครั้งนี้ในที่สุด
หลังการสอบสวนของ พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ แพงไพรี พนักงานสอบสวน สภ.แปลงยาว ทราบชื่อคนขับ คือ นายทองม้วน โสภารัตน์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.7 ต.ดงเมืองแอบ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ได้ขับรถไปรับจ้างบรรทุกฟางมาจากในเขต อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำไปส่งยังที่เกาะโพธิ์ เขต จ.ชลบุรี โดยมาพร้อมกับภรรยา และญาติ ชาย-หญิง อีก 2 คน แต่มาเกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในขณะที่มีการยกสายไฟขึ้นแล้วสายไฟไปแตะสัมผัสกันจนเกิดเป็นประกายไฟตกใส่ฟาง หรืออาจเกิดจากคนที่นั่งอยู่ที่ด้านหลังรถสูบบุหรี่แล้วทำเศษของไฟจากก้นบุหรี่ตกใส่ฟางจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นก็เป็นได้ ส่วนสาเหตุที่คนขับไม่ยอมหยุดรถแล้วรีบหนีลงมานั้นยังไม่มีใครทราบ