ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ครอบครัวชาวนา อ.แวงน้อย วอนช่วย “น้องทีม” ลูกชายวัย 4 ขวบ แขนบวมโตผิดปกติ 1 ข้าง อายุ 2 ขวบพาพบแพทย์ รพ.ศรีนครินทร์ บอกรักษาไม่หาย โตขึ้นจะหายเอง แต่นับวันอาการยิ่งแย่ ตอนนี้แขนข้างที่บวมหนักกว่า 1 กก. นอนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด วอนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยรักษา
วันนี้ (15 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านกุดรู ต.แวงน้อย อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ว่ามีครอบครัวชาวนา หาเช้ากินค่ำ มีบุตรชายวัย 4 ขวบที่ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องแอบร้องไห้ทุกวัน เพราะสงสารลูกชายที่ชื่อ “น้องทีม” ซึ่งแขนข้างหนึ่งโตผิดปกติตั้งแต่เกิด โดยบวมเป็นก้อนแข็ง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 4 บ้านกุดรู ต.แวงน้อย อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น และได้พบกับนางสมคิด นามทองดี มารดา ด.ช.ศิริพงษ์ นามทองดี หรือน้องทีม
นางสมคิดเล่าว่า มีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 15 ปี เรียนชั้น ม.3 ร่างกายปกติดี ส่วนน้องทีมแขนข้างหนึ่งโตผิดปกติตั้งแต่เกิด ช่วง 2 ปีแรกต้องอุ้มลูกชายเดินทางจากบ้านกุดรู นั่งรถประจำทางเข้าไปในตัวเมืองขอนแก่น เพื่อพาน้องทีมไปโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอให้หมอรักษาแขน แต่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาหมอบอกเพียงแต่ว่าไม่มียารักษา และผ่าตัดไม่ได้ เพราะไม่ใช่ก้อนเนื้อ จึงได้แต่เสียใจ เป็นทุกข์ สงสารลูก เพราะต้องหยุดงานในนาพาลูกไปหาหมอ เดินทางแต่ละครั้งใช้เงินไม่น้อย และยังต้องมีป้าของน้องทีมไปด้วย เพื่อผลัดกันอุ้มน้อง ช่วยกันถือข้าวของ ยิ่งเมื่อหมอบอกด้วยภาษาที่ไม่เข้าใจ รู้แต่ว่าอาการบวมน่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อน้องโตขึ้น
“นอกจากน้องทีมจะแขนบวมข้างหนึ่งแล้ว ทางโรงพยาบาลยังไม่ออกใบรับรองคนพิการให้ด้วย ทั้งที่แขนข้างที่บวมไม่ค่อยมีแรง ใช้งานไม่ได้อย่างคนปกติ กำมือยังไม่ได้ ครอบครัวเราเป็นชาวนา ไม่ได้มีความรู้มากมาย ไม่มีรายได้ประจำ เมื่อน้องมีอาการผิดปกติก็ต้องดูแลมากกว่าคนปกติ หากน้องได้รับใบรับรองผู้พิการจากโรงพยาบาล ก็ยังพอมีเงินเบี้ยผู้พิการมาช่วยค่านมได้ เพราะน้องทีมแพ้นมวัว ดื่มแล้วจะท้องเสียทันที มีไข้ขึ้นสูง ทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลือง”
นางสมคิดเล่าต่อไปอีกว่า น้องทีมเป็นเด็กอารมณ์ดี หากเป็นคนรู้จักหรือคุ้นเคยน้องทีมจะชอบยิ้มให้ ร่าเริงแจ่มใส จนเป็นที่รักของเพื่อนๆ และคนที่รู้จัก เวลาน้องทีมกลับจากโรงเรียน จะมีเงินเหรียญวันละหลายเหรียญติดกระเป๋ากลับมา ซึ่งน้องทีมบอกว่าเพื่อนๆหยอดใส่กระเป๋าให้ บอกว่าชอบน้องทีมที่อารมณ์ดี ทำให้พ่อแม่และป้าตื้นตันใจที่เด็กด้วยกันชอบน้องทีม ไม่มีใครรังเกียจ หรือแกล้งน้องทีม นอกจากนี้ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแวงน้อย มาถามข่าวคราวและแวะมาเยี่ยมน้องทีมบ้าง เมตตาให้เงินช่วยค่านมน้องทีมบ้าง แต่ไม่มีส่วนราชการใดเข้ามาถ่ามไถ่สารทุกข์สุกดิบ หรือช่วยดูแลแนะนำด้านการรักษาเลย
"ด้วยความที่น้องทีมเป็นเด็กร่าเริง ซุกซนเหมือนเด็กปกติ ชอบวิ่งเล่นจนล้มลุกคลุกคลาน เพราะน้ำหนักแขนไม่เท่ากัน ล่าสุดเมื่อต้นปี 2556 น้องทีมแขนหัก ไปหาหมอเอ็กซเรย์แขน และรักษาอาการกระดูกหักแล้ว แต่แขนก็ยิ่งบวมขึ้น จนหนักกว่า 1 กิโลกรัม บางคืนลูกนอนร้องไห้ ร้องว่าเจ็บ ฉันและพ่อของน้องทีมได้แต่ปลอบลูกชาย อดสงสารไม่ได้ ต้องแอบร้องไห้ตามลูก เพราะไม่อยากให้เขาเห็น ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอเจ็บปวดแทนลูกเถอะ บ่อยครั้งที่น้องทีมร้องไห้จนผลอยหลับคาอ้อมแขนแม่"
เมื่อถามว่า หากสามารถขอพรจากสิ่งศักดิ์ได้ หวังอยากได้อะไร นางสมคิดตอบทั้งน้ำตาว่า "ทุกวันนี้ได้แต่หวัง ขอแค่ได้ยามาให้น้องกินลดอาการบวมบ้างก็ยังดี หรือได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยมาดูอาการและรักษาน้องทีมให้ดีขึ้นกว่านี้ หรืออย่างน้อยขอเพียงให้น้องมียารักษาบ้างก็ถือเป็นบุญกุศล คนเป็นแม่อย่างไรก็ยังมีความหวัง ที่จะเห็นน้องทีมมีร่างกายปกติ เพื่ออนาคตน้องทีมจะได้ดูแลตัวเองได้ หากพ่อและแม่ลาจากโลกนี้ไปแล้ว"
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัว "นามทองดี" ในการรักษาอาการของน้องทีมติดต่อได้ที่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 4 บ้านกุดรู ต.แวงน้อย อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น หรือติดต่อป้าของน้องทีม ที่โทร. 087-429-3793