น่าน - ศูนย์พัฒนาสังคมใช้โอกาสวันวาเลนไทน์ เปิดศาลาประชาคมชุมชนมลาบรี นำ “ตองเหลือง” 32 คู่จดทะเบียนสมรส ขณะที่ความเชื่อดั้งเดิมของคนในเผ่าห้ามแต่งงานกับเครือญาติ ไม่ว่าจะมีสัมพันธ์ห่างกันกี่ชั่วโคตรก็ตาม รวมทั้งห้ามแต่งงานกับเผ่าอื่นมาตลอด
วันนี้ (14 ก.พ.) นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต ปลัดจังหวัดน่าน เป็นประธานมอบทะเบียนสมรสให้กับชนเผ่ามลาบรี หรือตองเหลือง 32 คู่ ซึ่งศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 25 จังหวัดน่านได้ทำโครงการจดทะเบียนสมรสชนเผ่ามลาบรี ขึ้นที่ศาลาประชาคมชุมชนมลาบรี บ้านห้วยหยวก ต.แม่ขะนิง อ.เวียงสา เพื่อให้ครอบครัวมลาบรีหรือตองเหลืองครองคู่กันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างจิตสำนึกความเป็นคนไทย ประเพณีไทย ตลอดจนให้ครอบครัวมลาบรีเข้าถึงบริการของรัฐบนพื้นฐานและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
เดิมชนเผ่ามลาบรีมีข้อห้ามในการแต่งงาน คือ ห้ามแต่งงานกับเครือญาติเดียวกัน ไม่ว่ากี่ยุคหรือกี่ชั่วโคตรก็ตาม อีกทั้งสมัยก่อนชนเผ่ามลาบรีไม่มีการส่งเสริมให้ลูกหลานของเผ่าไปแต่งงานกับชนเผ่าหรือเชื้อชาติอื่น เพราะกลัวว่าคนอื่นจะรังเกียจชนเผ่าของตน
สำหรับชาวชุมชนมลาบรี ได้สัญชาติไทยเมื่อปี 2541 จึงมีเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ชาวไทยชนเผ่ามลาบรีพอใจที่จะเรียกชื่อเชื้อชาติของตนเองว่ามระบรี มระ หรือมรา ซึ่งมีความหมายว่าคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่าหรือคนที่อาศัยอยู่ในป่า ส่วนที่เรียกว่า “ผีตองเหลือง” เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เร่ร่อน ที่พักจะสร้างเป็นเพิง หลังคามุงด้วยใบตอง ใบปาล์ม ใบก้อ ใบหวาย ใบอ้อป่า หรือใบไม้ที่หาพบในป่า เมื่อแหล่งที่อยู่อาศัยนั้นมีอาหารไม่พอเพียงก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อหาอาหารต่อไป
และเป็นความบังเอิญที่ชาวบ้านในแถบนั้นเคยพบชนกลุ่มนี้ตั้งแต่เริ่มสร้างที่อยู่ และสังเกตว่าเมื่อใบไม้ที่ใช้มุงหลังคาเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลือง พวกเขาจะย้ายไป กอปรกับความเชื่อที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจจนกลายเป็นลักษณะนิสัยของพวกเขาที่เชื่อว่าจะเป็นบาปหากได้พบกับคนจากพื้นที่ราบ หรือคนแปลกหน้าจากเผ่าอื่นที่ไม่เคยรู้จัก จึงอพยพหนีหรือหายตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นผีหายตัวได้ จึงถูกเรียกชื่อว่าผีตองเหลือง
ปัจจุบันศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 25 จังหวัดน่าน ได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร เช่น ปลูกข้าว พืชผัก และเลี้ยงสัตว์ ไว้เป็นอาหาร ไม่ต้องเร่รอนไปอยู่ที่อื่นอีกต่อไป
คลิกเพื่อชมคลิป :
