นครปฐม - เผยยอดจำหน่ายถุงยางอนามัยในเมืองนครปฐมพุ่งสูงกว่าแสนชิ้น หลังรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ เตรียมเดินหน้ารณรงค์ต่อเนื่องทั้งตั้งเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยแบบหยอดเหรียญทุกป้ายรถเมล์ และหน้าสถานศึกษาให้เพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (14 ก.พ.) นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ จังหวัดนครปฐม พบว่า มีวัยรุ่นมาซื้อถุงยางอนามัยจากเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยแบบหยอดเหรียญ ซึ่งติดตั้งอยู่ทุกป้ายรถเมล์ และหน้าโรงเรียน ที่ทำให้วัยรุ่นสามารถเข้าถึงถุงยางอนามัยได้ โดยในแต่ละเครื่องมีผู้มาใช้บริการ จำนวน 45,000 ชุด หรือประมาณ 135,000 ถุงต่อเครื่อง ซึ่งนโยบายของจังหวัดนครปฐมต้องการให้เยาวชนเข้าถึงถุงยางอนามัย แต่ไม่ใช่การส่งเสริมให้เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ แต่ถ้าหากห้ามไม่ได้จะต้องมีเครื่องมือป้องกัน
ดังนั้น จึงได้เน้นการสร้างความรู้ความเข้าในเรื่องเพศศึกษาให้มากขึ้น โดยมีมาตรการในการทำงานด้านป้องกันเอดส์ในกลุ่มเยาวชน ซึ่งถือว่าปัญหาด้านพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อของเยาวชน เป็นปัญหาที่ทุกหน่วยงานต้องรับผิดชอบ มีการขยายบริการให้เข้าถึงถุงยางอนามัย มีการรณรงค์ให้เกิดค่านิยมเชิงบวกในเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยโดยการสร้างค่านิยมในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับการใช้ถุงยางอนามัย รวมทั้งส่งเสริมทัศนคติของผู้ชายให้พก และใช้ถุงยางอนามัย
นอกจากนี้ ยังรณรงค์ให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการป้องกัน โดยการให้ความรู้ และคำปรึกษาด้านอนามัยเจริญพันธุ์ และโรคเอดส์ รวมทั้งการดำเนินการในกลุ่มพนักงานขายบริการ กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย กลุ่มผู้ใช้ยาด้วยวิธีฉีด กลุ่มแรงงานข้ามชาติ และกลุ่มผู้ต้องขัง
สำหรับโครงการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพ และปกป้องสังคมสำหรับเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ และเด็กที่อยู่ในภาวะเปราะบางในพื้นที่ที่สถานการณ์ปัญหาโรคเอดส์สูง เป็นโครงการที่จังหวัดนครปฐมได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 จำนวน 15 ตำบล ในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม และในปี พ.ศ.2556 นี้ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอีก 15 ตำบล ในพื้นที่อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอีก 25 ตำบลในปี 2557 โดยจะเน้นการส่งเสริมศักยภาพพ่อแม่ และผู้ดูแลเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ พร้อมทั้งการสนับสนุนด้านการเงินแก่ครอบครัวเด็ก ที่มีภาวะเปราะบาง รวมทั้งที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ด้วย
วันนี้ (14 ก.พ.) นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ จังหวัดนครปฐม พบว่า มีวัยรุ่นมาซื้อถุงยางอนามัยจากเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยแบบหยอดเหรียญ ซึ่งติดตั้งอยู่ทุกป้ายรถเมล์ และหน้าโรงเรียน ที่ทำให้วัยรุ่นสามารถเข้าถึงถุงยางอนามัยได้ โดยในแต่ละเครื่องมีผู้มาใช้บริการ จำนวน 45,000 ชุด หรือประมาณ 135,000 ถุงต่อเครื่อง ซึ่งนโยบายของจังหวัดนครปฐมต้องการให้เยาวชนเข้าถึงถุงยางอนามัย แต่ไม่ใช่การส่งเสริมให้เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ แต่ถ้าหากห้ามไม่ได้จะต้องมีเครื่องมือป้องกัน
ดังนั้น จึงได้เน้นการสร้างความรู้ความเข้าในเรื่องเพศศึกษาให้มากขึ้น โดยมีมาตรการในการทำงานด้านป้องกันเอดส์ในกลุ่มเยาวชน ซึ่งถือว่าปัญหาด้านพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อของเยาวชน เป็นปัญหาที่ทุกหน่วยงานต้องรับผิดชอบ มีการขยายบริการให้เข้าถึงถุงยางอนามัย มีการรณรงค์ให้เกิดค่านิยมเชิงบวกในเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยโดยการสร้างค่านิยมในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับการใช้ถุงยางอนามัย รวมทั้งส่งเสริมทัศนคติของผู้ชายให้พก และใช้ถุงยางอนามัย
นอกจากนี้ ยังรณรงค์ให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการป้องกัน โดยการให้ความรู้ และคำปรึกษาด้านอนามัยเจริญพันธุ์ และโรคเอดส์ รวมทั้งการดำเนินการในกลุ่มพนักงานขายบริการ กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย กลุ่มผู้ใช้ยาด้วยวิธีฉีด กลุ่มแรงงานข้ามชาติ และกลุ่มผู้ต้องขัง
สำหรับโครงการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพ และปกป้องสังคมสำหรับเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ และเด็กที่อยู่ในภาวะเปราะบางในพื้นที่ที่สถานการณ์ปัญหาโรคเอดส์สูง เป็นโครงการที่จังหวัดนครปฐมได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 จำนวน 15 ตำบล ในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม และในปี พ.ศ.2556 นี้ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอีก 15 ตำบล ในพื้นที่อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอีก 25 ตำบลในปี 2557 โดยจะเน้นการส่งเสริมศักยภาพพ่อแม่ และผู้ดูแลเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ พร้อมทั้งการสนับสนุนด้านการเงินแก่ครอบครัวเด็ก ที่มีภาวะเปราะบาง รวมทั้งที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ด้วย