จันทบุรี - ช้างป่าลงจากเขาขาด หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี บุกประชิดบ้าน และเหยียบชาวบ้านเสียชีวิตอนาถ
วันนี้ (10 ก.พ.) เวลา 04.55 น. ร.ต.ท.คงสกุล เกษมสิทธิ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรตกพรม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีช้างป่าลงจากเขาขาดเข้ามาทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตที่ หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.คงสกุล เกษมสิทธิ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรตกพรม นายพรชัย คำนึง ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่ขลุงมูลนิธิ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงพบผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านข้างทางในสภาพร่างกายถูกช้างป่าเหยียบร่างแหลกเหลวไปทั้งตัว สมองไหล กะโหลกยุบ ขาและแขนหัก ในที่เกิดเหตุยังพบเงินสด 120 บาท ไฟฉายแบบติดหัว 1 อัน และรองเท้า 1 คู่ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้ ยังพบร่องรอยเท้าช้างป่า และขี้ช้าง และพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหายจาการถูกช้างป่ากัดกิน
ต่อมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายทองเจิม ก้อนทองดี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/10 หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี จากการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถาม นางชิน วรรณประโคน อายุ 75 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ความว่าตนเองได้ยินเสียงช้างป่าลงมาจากเขาขาด และได้เข้ามาในสวนของผู้เสียชีวิต
จากนั้นผู้เสียชีวิตได้เดินมาดู โดยมีสุนัขตามมาด้วย สุนัขคงจะเห็นช้างป่าว่าเข้ามาในสวนจึงส่งเสียงเห่าทำให้ช้างป่าที่ไม่ชอบสุนัขอยู่แล้วได้วิ่งไล่สุนัข และเห็นผู้เสียชีวิตกำลังเดินเข้ามา ช้างป่าจึงใช้งวงเหวี่ยงผู้เสียชีวิตล้มลง และใช้เท้าเหยียบจนเสียชีวิตดังกล่าว
ในเบื้องต้น นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้รับเรื่องแล้ว และสั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่ไปให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นหัวหน้าครอบครัว และสั่งการให้หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ จัดกำลังผลักดันให้ช้างป่ากลับขึ้นเขาโดยด่วน เพราะเกรงว่าชาวบ้านในพื้นที่จะได้รับอันตรายจากการถูกช้างป่าตัวนี้ทำร้ายซ้ำอีก
สำหรับพื้นที่ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี มีช้างป่ามาทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตไปแล้วรายนี้เป็นรายที่ 3 จึงอยากให้ทางจังหวัดได้หามาตรการมาช่วยแก้ไขปัญหาช้างป่าทำร้ายชาวบ้านอย่างเร่งด่วนต่อไป