สุรินทร์- “ผบช.ตม.” ตรวจเยี่ยม ตม.กาบเชิง ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อเตรียมพร้อมกำลังพลเข้าสู่ AEC เผยยังมีปัญหาที่ตั้งสำนักงานชายแดนอยู่ในเขตอุทยานฯ และเขตแดนยังไม่ชัดเจน พร้อมเตรียมนำ “ออโตแชนเนล” มาใช้
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพล ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง เพื่อติดตามรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ซึ่งต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ตำรวจภูธรภาค 3 เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด กัมพูชา ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา อย่างเป็นกันเอง
พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ตม. กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิงครั้งนี้เพื่อตรวจความพร้อมของอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอาคารสถานที่ และเครื่องมือ เพื่อให้มีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558นี้ ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิงมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ยังมีปัญหาในเรื่องที่ตั้งอาคารสำนักงาน ตม.ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม เนื่องจากพื้นที่ชายแดนอยู่ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติ และมีปัญหาเรื่องเขตแดนที่ยังไม่ชัดเจน โดยทาง อบต.และ อบจ.สุรินทร์เองพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งต้องหาพื้นที่ตั้งสำนักงานให้ได้ แต่ไม่น่ามีปัญหาเพราะสามารถหาพื้นที่ใหม่รองรับได้
ส่วนการพัฒนาด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้น เมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนก็ต้องมีเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือออโตแชนเนล (Auto Channel) อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยกับกัมพูชามีความตกลงใช้ซิงเกลวีซ่า (Single Visa) แล้ว คือขอวีซ่าประเทศเดียวสามารถใช้เดินทางได้ทั้งไทย และกัมพูชา ซึ่งด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องจอมก็ต้องดูแลเรื่องนี้อยู่ด้วยเช่นกัน