ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ชุดสืบสวน ตร.ภาค 3 รวบหนุ่มเซลส์แมนแสบลักทรัพย์ในอพาร์ตเมนต์กลางเมืองโคราช พร้อมของกลางหลายรายการ เผยภาพกล้องวงจรปิดมัดแน่น สารภาพทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง อ้างไม่พอใจเพื่อนร่วมห้องจึงขโมยทรัพย์สินไปขาย รวมทั้งห้องข้างเคียง
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.พลอย พิมพิสาร ผู้กำกับการ (ผกก.) กองกับการสืบสวนสอบสวน 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำตัว นายจักรพงษ์ หรือก็อต คำดี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ต.คลองเมือง อ.จักราช จ.นครราชสีมา มาสอบปากคำเพิ่มเติม
หลังก่อเหตุลักทรัพย์ในอาพาร์ตเมนต์ “สุนิษาเพลส” ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง โทรทัศน์สี LCD ยี่ห้อชาร์ป รุ่น AQUOS ขนาด 32 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อ HP รุ่น PAVILLION สีบรอนซ์ จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น MIO สีดำ ติดหมายเลขทะเบียน งขร 894 นครราชสีมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายชัชวาล แก้วชัยภูมิ อายุ 25 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์เป็นโทรทัศน์สี LCD จอแบนภายในห้องเช่าเลขที่ 211 “สุนิษาเพลส” ต.หัวทะเล เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวจนรู้ตัวคนร้ายที่ลักทรัพย์ ทราบชื่อคือ นายจักรพงษ์ คำดี ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องพักเลขที่ 211 “สุนิษาเพลส” เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนสามารถติดตามตัว นายจักรพงษ์ ได้ที่ห้องพักเลขที่ A08 หอพักทวีคูณ ถ.บุญวัฒนาซอย 3 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขณะหนีไปหลบซ่อนตัว
เบื้องต้น นายจักรพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพนักงานขายเครื่องดูดฝุ่นของ บริษัท ลุกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และพักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันกับ นายชัชวาล แต่ไม่พอใจที่ นายชัชวาล มักนำเพื่อนคนอื่นมาเล่นในห้อง จึงขโมยโทรทัศน์ไปขาย และยังได้เข้าไปขโมยเงิน และโน้ตบุ๊กของผู้ที่พักอยู่ข้างห้องอีกด้วย โดยทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง
จากการตรวจค้นห้องพักพบของกลางจำนวนดังกล่าว และมีบางส่วนที่ นายจักรพงษ์ นำไปจำนำ และนำเงินมาใช้จ่ายหมดแล้ว ซึ่งจากการตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง นายจักรพงษ์ให้การรับสารภาพว่า เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ 1 เม็ด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาต่อ นายจักรพงษ์ ว่า “ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการหลบหนี หรือรับของโจร” ส่งนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป