บุรีรัมย์ - ชุดเฉพาะกิจกระทรวงพาณิชย์นำหลักฐานพร้อมภาพถ่ายขณะเข้าตรวจลานมันทั้ง 3 แห่งที่ถูกแจ้งจับ ยักยอกมันโครงการจำนำของรัฐบาลกว่า 34,000 ตัน เสียหาย 250 ล้าน เข้าให้ปากคำตำรวจบุรีรัมย์ ก่อนออกหมายเรียกเจ้าของบริษัทรับทราบข้อกล่าวหา ยันพบเชื่อมโยงถึงใครเอาผิดทุกราย
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ นายวรินทร จันทร์กล่ำ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน พร้อมด้วยนายนวพล อรุณฤกษ์ถวิล นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้เข้าตรวจสอบลานมันทั้ง 3 แห่ง ซึ่งถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกมันสำปะหลัง โครงการรับจำนำปี 2554/55 ของรัฐบาลกว่า 34,000 ตัน ความเสียหายกว่า 250 ล้านบาท นำหนังสือคำสั่งของอธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมภาพถ่ายขณะเข้าตรวจสอบลานมันทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด บริษัท ชโลบลอินเตอร์ไพรส์ จำกัด ที่มาเปิดรับจำนำมันที่ อ.หนองกี่ และ บริษัท ธงฟ้าเทรดดิ้ง จำกัด ที่มาเปิดรับจำนำมันที่ อ.ละหานทราย เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ควบคุมการสอบปากคำด้วยตัวเอง
จากการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจให้ข้อมูลว่า ได้เข้าตรวจสอบลานมันตามคำสั่งของอธิบดีกรมการค้าภายใน แต่กลับไม่พบมันในลาน และเมื่อสอบถามเจ้าของก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าหายไปไหน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน พร้อมประสานองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะคู่สัญญาเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ทั้งนี้ หลังจากสอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานออกหมายเรียกบริษัทเจ้าของลานมันทั้ง 3 แห่งมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากฝ่าฝืนไม่มารับทราบข้อกล่าวหาก็จะออกหมายจับต่อไป
พ.ต.อ.วิรัตน์กล่าวว่า จากผลการสอบปากคำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งพาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด อคส. และชุดเฉพาะกิจ พบว่าลานมันทั้ง 3 แห่งมีเจตนายักยอกมันสำปะหลังจริง ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และหากพบข้อมูลเชื่อมโยงถึงใครก็จะเอาผิดทุกรายโดยไม่ละเว้น ถึงแม้ อคส.และเจ้าของบริษัทในฐานะคู่สัญญาจะเจรจาตกลงกันได้ แต่ทางคดีอาญาต้องดำเนินการต่อไปตามกระบวนการ