พิษณุโลก - แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์สองแควบูม เล็งจุดจอดสถานีรถไฟความเร็วสูงผุดย่านสถานีบึงพระ-เต็งหนาม-บ้านตูม ขณะที่ทำเลยอดนิยมริมถนนย่านสี่แยกอินโดจีนแรงสุด ต่อเนื่องถึงขยายถนน 4 เลนพิษณุโลก-หล่มสัก
วันนี้ (6 ก.พ.) นายวิเศษ วชิราศรีศิริกุล กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เริ่มคืบหน้า และคาดว่าอีกไม่เกิน 5 ปีคนพิษณุโลกจะมีโอกาสได้ใช้ ล่าสุดมีการเก็งกำไรที่ดินทำเลทองใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูง คาดว่าน่าจะเป็นแถว ต.บึงพระ ตอนใต้ของตัวเมือง หรือเหนือตัวเมืองพิษณุโลกไปทาง อ.พรหมพิราม บริเวณ ต.เต็งหนาม และ ต.บ้านตูม
นายวิเศษกล่าวว่า วันนี้คนจีนก็จ้างคนไทยทำวิจัย ส่วนนักลงทุนไทยก็เก็งกำไรที่ดินผืนใหญ่ เน้นไปที่ถนนตอนเหนือของพิษณุโลก เช่น ถนนพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ถนนเลี่ยงเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่สีม่วง คือที่ดินสำหรับอุตสาหกรรมและคลังสินค้า สามารถตั้งโรงงานได้ เพราะไม่ใช่พื้นที่สีเขียว (เกษตรกรรม) หรือสีแดง (เขตชุมชน) สามารถเชื่อมถนนสาย 11 ขึ้นเหนือไปอุตรดิตถ์-แพร่ได้สะดวก
“ราคาที่ดินแถบชานเมืองขยับขึ้นต่อเนื่อง เริ่มจากหมู่บ้านจัดสรร ต่อด้วยเก็งกำไรจากผลพวงรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และถนนเอเชีย ทำให้มีการเก็งกำไรที่ดินเริ่มตั้งแต่สี่แยกอินโดจีนตามแนวถนนพิษณุโลก-หล่มสัก ล่าสุดกำลังปรับขยายถนนเป็น 4 เลน อีกทั้งกำลังรองบประมาณโครงการขยายถนนเลี่ยงเมืองตอนใต้ของตัวเมืองเป็น 4 เลนเช่นกัน”
นายวิเศษกล่าวว่า ส่วนที่ดินริมถนนหลวงระยะไม่เกิน 40 เมตร แพงที่สุดคือ ถนนมิตรภาพ (ตัวเมือง-สี่แยกอินโดจีน) ราคาประเมินไร่ละ 8 ล้านบาท ถัดไปจากสี่แยกอินโดจีนถึง อ.วังทอง (ถนนหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก) ราคาแพงสุดไร่ละ 4 ล้านบาท ก่อนจะลดหลั่นลงไปเรื่อยๆ จนถึงเขต อ.วังทอง ซึ่งราคาซื้อขายจริงนั้นสูงกว่าราคาประเมิน ด้านที่ดินริมถนนหลวงหมายเลข 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ราคาประเมินไร่ละ 1.5 ล้านบาท ราคาตลาด 5 ล้านบาท ที่ดินย่านสถานีรถไฟบึงพระถือว่ายังถูก โดยที่ดินแปลงย่อยราคาประเมินริมถนนไร่ละ 8 แสนบาท และที่ดินริมถนนย่านสถานีรถเต็งหนามไร่ละ 1.5 ล้านบาท
ล่าสุด นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงสำรวจถนนพิษณุโลก-หล่มสัก (ถนนเอเชียหมายเลข 12) ที่บ้านวังดินสอ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ที่กำลังขยายเป็นถนน 4 เลน และกล่าวว่า งานก่อสร้างยังล่าช้า ภาคเอกชนได้ฝากให้ช่วยเร่งรัดให้เสร็จเร็วๆ ซึ่งก็ได้ผลักดันเร่งรัดผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรไปแล้ว โดยให้กระทรวงคมนาคมทำงานให้เสร็จภายในปี 2558 รับเออีซี
“ปัญหาอยู่ที่งานชักลากไม้ออก ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ยังไม่ชักลากออกจากข้างทาง หลังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประทับตราคัดประเภทไม้แล้ว”
ทั้งนี้ ถนนหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ถือเป็นโครงข่ายถนนเชื่อม อ.แม่สอด-ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-อ.หล่มสัก-อ.ชุมแพ-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก โดยช่วงพิษณุโลก-อ.หล่มสัก ระยะทาง 105 กิโลเมตร ได้รับเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย และงบประมาณรัฐบาลรวม 3,300 ล้านบาท ลดแบบจากเดิมมีเกาะกลางเป็นถนนแบ่งด้วยสีเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ไม่รุกล้ำเขตอุทยานมากนัก โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน หรือไม่เกิน 36 เดือน
