ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แบงก์ชาติแถลงภาวะเศรษฐกิจอีสานปี 2555ขยายตัวต่อเนื่อง เหตุนโยบายรถยนต์คันแรกหนุนยอดขายพุ่งพรวด พบยอดขายรวมทั้งไตรมาสหลังนโยบายมีมากกว่า 60,000 คัน อีกทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ได้แรงหนุนจากยอดขายอาคารชุดที่ขอนแก่น อุดรธานี ขณะที่การค้าชายแดนยังขยายตัวดี
วันนี้ (4 ก.พ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถลงข่าวเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2556 โดยมี ดร.พิชิต ภัทรวิมลพร ผู้อำนวยการอาวุโส เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือปี 2555 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ผลจากการใช้จ่ายภาคเอกชน และการลงทุนที่ขยายตัวดี โดยมีแรงสนับสนุนจากนโยบายรถยนต์คันแรก รวมทั้งสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทั้งสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล สินเชื่อภาคการค้า สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ส่วนราคาสินค้าเกษตรชะลอตัวตามตลาดโลก โดยเฉพาะราคายางพารา และข้าวเหนียว
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวดีจากระยะเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์ที่ขยายตัวสูงมากตามนโยบายรถยนต์คันแรก ซึ่งในพื้นที่ภาคอีสานเติบโตสูง โดยเฉลี่ยแต่ละไตรมาสจะมียอดจำหน่ายทั้งภาคประมาณ 30,000 คัน แต่หลังนโยบายรถคันแรกทำให้ยอดจำหน่ายสูงขึ้นถึงไตรมาสละ 60,000 คัน ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ใน จ.นครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น รองลงมาคือ จ.อุบลราชธานี และ จ.อุดรธานี และที่น่าสนใจยอดขายส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมากกว่ารถกระบะเติบโตสูงสุดถึง 232% ขณะที่รถกระบะเติบโตเพียง 130% แสดงถึงวิถีการดำเนินชีวิตของประชากรในจังหวัดใหญ่ของภาคอีสานเปลี่ยนไปสู่สังคมเมืองมากขึ้น
ขณะเดียวกัน หมวดอสังหาริมทรัพย์เติบโตสูงมาก โดยเฉพาะการขยายตัวของอาคารชุดใน จ.ขอนแก่น และ จ.อุดรธานี โดย จ.ขอนแก่นมียอดโครงการถึง 30 โครงการ หรือกว่า 7,000 ยูนิต ส่วน จ.อุดรธานี 6 โครงการ ประมาณ 3,000 ยูนิต ปัจจัยหลักมาจากปัญหาน้ำท่วมภาคกลางทำให้คนหาซื้อบ้านหรืออาคารชุดในภาคอีสานมากขึ้น อีกทั้งราคาประเมินที่ดินที่ปรับสูงขึ้นมากทำให้การซื้อบ้านเดี่ยวทำได้ลำบาก
ที่น่าสนใจคือ ทั้งสองจังหวัดมีความพร้อมด้านสถาบันการศึกษา ที่ จ.ขอนแก่นมีมหาวิทยาลัยขอนแก่น นักศึกษาเปลี่ยนพฤติกรรมจากการเช่าหอพักมาเป็นซื้ออาคารชุดเป็นของตนเอง อีกส่วนซื้อเพื่อการลงทุน ขณะที่ จ.อุดรธานีมีจุดเด่นที่โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาประจำจังหวัดมีสถิตินักเรียนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ ทำให้ผู้ปกครองต้องการซื้ออาคารชุด และย้ายนักเรียนเข้ามาอยู่ในเมืองเพื่อศึกษาในโรงเรียนดังกล่าว
ขณะที่การลงทุนเร่งตัวขึ้นจากการก่อสร้างทั้งของภาครัฐบาล การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และของภาคเอกชน เห็นได้จากการจดทะเบียนธุรกิจหมวดการก่อสร้างที่ขยายตัวสูง โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น และการขยายตัวของยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ส่วนรายจ่ายของรัฐบาลโดยรวมเร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี หลังจากที่ได้มีการกันงบประมาณไว้สำหรับบริหารจัดการน้ำในช่วงครึ่งแรกของปี แต่ได้เร่งการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วงปีหลัง
ด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านยังคงขยายตัวดี โดยเฉพาะการส่งออกไปยังลาว และกัมพูชาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 2.48 ชะลอตัวลงจากปีก่อนที่ร้อยละ 3.85 ตามราคาอาหารเป็นสำคัญ สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.97 ชะลอตัวจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.10