ศูนย์ข่าวศรีราชา - ความโลภบังตา ทำหญิงสูงวัยเจ้าของธุรกิจบ้านเช่า และรับเหมาก่อสร้างในเมืองระยอง ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอก สูญเงินกว่า 4 แสนบาทเพื่อไถ่ถอนที่ดินจากธนาคาร หวังนำกำไรมาแบ่งกัน สุดท้ายรู้ถูกหลอก แจ้นแจ้งตำรวจตามตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (1 ก.พ.) นางบุญมาก รุ่งโรจน์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/9 หมู่ 6 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง แจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ซื่อกำเนิด พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ระยอง หลังถูกแก๊งต้มตุ๋นลวงซื้อที่ดินรับปากจะแบ่งค่านายหน้าให้ โดยพาไปเบิกเงินธนาคารกว่า 400,000 บาท เพื่อร่วมวางเงินซื้อที่ดิน หลังได้เงินก็หายทั้งแก๊ง
นางบุญมาก ซึ่งทำธุรกิจบ้านเช่า และรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีหญิง 1 คน และชาย 1 คน ทำทีขับรถยนต์เข้ามาหาที่บ้าน บอกว่ามาหาบ้านเช่า และหาซื้อที่ดิน 1 ไร่ เพื่อใช้วางสายเคเบิล แต่ได้ปฏิเสธว่าไม่มีบ้านเช่า และที่ดิน ทั้งคู่จึงพากันกลับไป แต่เมื่อวันที่ 31 มกราคม ทั้งสองได้ขับรถยนต์มาหาอีก โดยอ้างว่าทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานอยู่เขตมาบตาพุด ยังต้องการหาซื้อที่ดินเพื่อใช้ติดตั้ง และวางสายเคเบิล ขอให้ตนพาไปดูที่ดินแปลงหนึ่งใน ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา พร้อมนำโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวมาให้ดู และยังพานั่งรถไปที่วัดเจริญศรี ต.พนานิคม เพื่อถามหาเจ้าของที่ดิน จนพบชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของที่
ทั้งนี้ หญิงสาวที่นั่งมาในรถด้วยกันให้ตนลงไปสอบถามราคาที่ดิน ก่อนจะมีการตกซื้อ-ขายในราคา 920,000 บาท และยังทำทีว่าโฉนดที่ดินติดจำนองอยู่กับธนาคาร จำเป็นต้องนำเงินสดมาไถ่ถอน จึงจะนำไปขายได้ในราคา 1,200,000 บาท ซึ่งเงินส่วนเกินแบ่งเป็นค่านายหน้าให้แก่ทั้ง 3 คน
จากนั้น ทั้งสองได้พาตนนั่งรถยนต์ไปเบิกเงินสด 420,000 บาท จากธนาคารกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี อ.เมือง จ.ระยอง และให้นำเงินที่เบิกมาใส่กระเป๋าของผู้หญิงที่นั่งมาด้วยกัน ก่อนขับรถมาจอดที่หน้าขนส่ง ภายในศูนย์การค้าระยอง โดยให้ตนนั่งคอยอยู่ในรถ ส่วนทั้งคู่ได้ลงจากรถไป และโทรศัพท์กลับมาหาเพื่อบอกให้ลงไปเซ็นชื่อทำการไถ่ถอน เมื่อเซ็นชื่อเสร็จได้เดินกลับมาที่รถ ปรากฏว่า รถคันดังกล่าวหายไปแล้ว และเมื่อเดินย้อนกลับไปจุดที่นัดหมายเซ็นชื่อก็ไม่พบทั้งคู่แล้ว จึงรู้ว่าถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกให้สูญเงิน 420,000 บาท
“เงินจำนวนดังกล่าวได้มาจากการที่ญาตินำใช้หนี้ 200,000 บาท และเงินมัดจำล่วงหน้างานรับเหมาก่อสร้างบ้านพักอีก 220,000 บาท ซึ่งหลังปรึกษาญาติพี่น้องแล้วจึงได้เข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามจับกุมแก๊งต้มตุ๋นรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย”