ศูนย์ข่าวศรีราชา - 4 องค์กรหลักด้านการท่องเที่ยว ถกแผนการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวเมืองพัทยาดีขึ้นตามลำดับจนเป็นที่น่าพอใจ ด้าน ททท.เตรียมรุกแผนดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวพิการ
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่โรงแรมดุสิตพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มองค์กรภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว 4 องค์กรหลัก ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชมรมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี และสมาคมนักบริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก จัดประชุมร่วมเพื่อหารือและสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์และข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในภาพรวมของเมืองพัทยาในปี 2555 ที่ผ่านมา
นางบุญฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ถือว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เนื่องจากมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นกว่า 10% โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย และจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความสมบูรณ์ และความพร้อมด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างเต็มที่ ที่สำคัญ ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนไม่ว่าจะเป็น อบจ.ชลบุรี เมืองพัทยา และภาคธุรกิจการท่องเที่ยวต่างหันมาร่วมมือกันอย่างจริงจังในการส่งเสริมการตลาด และการท่องเที่ยวในกลุ่มต่างๆ จนทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นกว่าอดีต ผสมกับสถานการณ์ทางด้านการเมือง และวิกฤตการณ์ต่างๆ ก็ลดน้อยลงจึงมั่นใจว่าจากนี้ไปเมืองพัทยาจะเติบโตขึ้นอีกอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร รอง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมืองท่องเที่ยวได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวคือ เรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในส่วนของเมืองพัทยาเองเป็น 1 ใน 2 ของเมืองท่องเที่ยวหลักที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ และจัดส่งกำลังลงมาดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการจัดแผนในการป้องกัน 30 วันอันตรายระหว่างวันที่ 8 มกราคาถึง 7 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทำให้สถิติปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวน้อยลงไปกว่า 60% และมีเป้าหมายในช่วงอาทิตย์สุดท้ายให้สถิติอยู่ที่ 0% ซึ่งปัจจัยนี้จะเป็นแรงผลักดันอันดีในการสร้างภาพลักษณ์ต่อเมืองพัทยาทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
อย่างไรก็ตาม จากสภาพที่เกิดขึ้นนั้นพบว่า ปัญหาของเมืองพัทยาคือเรื่องของอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอต่อการป้องปราม โดยพบว่าขณะนี้มีอัตรากำลังอยู่ที่ 377 นายจากจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคน เฉลี่ยตำรวจ 1 นายดูแลประชากร 1.5 หมื่นคน จึงทำให้เกิดปัญหาอยู่บ้าง โดยในอนาคตสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีแผนในการจัดสร้าง สภ.เมืองพัทยา เพิ่มอีก 1 แห่ง พร้อมจัดส่งกำลังมาเพิ่มเติมเฉลี่ยปีละ 1.5 หมื่นนาย ซึ่งคงจะทำให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ในส่วนของเมืองพัทยาเองก็มีนโยบายสำคัญในการพัฒนา และปรับปรุงการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และระบบสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับสากล ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้นี้มีแผนจะทำการถมชายหาดในระยะความกว้าง 35 เมตร เพื่อให้เป็นจุดขายหลัก รวมทั้งการปรับภูมิทัศน์ชายหาด การขยายถนนชายหาดเพิ่มเติมอีก 1 เลน
นอกจากนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือเจ็ตสกีให้เช่า เรื่องของการแก้ไขปัญหาการจราจร เรื่องของระบบความปลอดภัยต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเพิ่มเติมอีกด้วย
ส่วนนายบริสุทธิ์ ประสบทรัพย์ ผอ.ส่วนภูมิภาคการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ ททท. ปัจจุบัน กำลังมองในกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มคนพิการ และกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาส เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูง เพราะการมาของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ไม่ได้เดินทางมาเพียงลำพัง
แต่อย่างไรก็ตาม การที่เมืองพัทยาจะได้นักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ต้องมีความพร้อมในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พัก อย่างพื้นที่เมืองพัทยา มีเพียงแค่โรงแรมเอวัณแห่งเดียว ที่ได้ปรับปรุงห้องพักพร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สำคัญไปแล้วกว่า 60 ห้อง
ขณะนี้ ทาง ททท. มีการหารือร่วมกับทางเมืองพัทยา โดยมุ่งหวังจะสร้างให้เมืองพัทยากลายเป็นเมืองต้นแบบในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ ไม่ว่าจะเป็นทางลาดลงสู่หาด, ทางสำหรับให้คนพิการสามารถลงไปเล่นน้ำได้อย่างสะดวก รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในส่วนต่างๆ ที่ครบถ้วน คาดว่าเมืองพัทยาจะกลายเป็นเมืองทางเลือกอีกเมืองหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และคาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวในกลุ่มของผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มอีกกว่า 1 ล้านคนอย่างแน่นอน
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่โรงแรมดุสิตพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มองค์กรภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว 4 องค์กรหลัก ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ชมรมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี และสมาคมนักบริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก จัดประชุมร่วมเพื่อหารือและสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์และข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในภาพรวมของเมืองพัทยาในปี 2555 ที่ผ่านมา
นางบุญฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ถือว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เนื่องจากมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นกว่า 10% โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย และจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความสมบูรณ์ และความพร้อมด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างเต็มที่ ที่สำคัญ ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนไม่ว่าจะเป็น อบจ.ชลบุรี เมืองพัทยา และภาคธุรกิจการท่องเที่ยวต่างหันมาร่วมมือกันอย่างจริงจังในการส่งเสริมการตลาด และการท่องเที่ยวในกลุ่มต่างๆ จนทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นกว่าอดีต ผสมกับสถานการณ์ทางด้านการเมือง และวิกฤตการณ์ต่างๆ ก็ลดน้อยลงจึงมั่นใจว่าจากนี้ไปเมืองพัทยาจะเติบโตขึ้นอีกอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร รอง ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมืองท่องเที่ยวได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวคือ เรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในส่วนของเมืองพัทยาเองเป็น 1 ใน 2 ของเมืองท่องเที่ยวหลักที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ และจัดส่งกำลังลงมาดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการจัดแผนในการป้องกัน 30 วันอันตรายระหว่างวันที่ 8 มกราคาถึง 7 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทำให้สถิติปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวน้อยลงไปกว่า 60% และมีเป้าหมายในช่วงอาทิตย์สุดท้ายให้สถิติอยู่ที่ 0% ซึ่งปัจจัยนี้จะเป็นแรงผลักดันอันดีในการสร้างภาพลักษณ์ต่อเมืองพัทยาทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
อย่างไรก็ตาม จากสภาพที่เกิดขึ้นนั้นพบว่า ปัญหาของเมืองพัทยาคือเรื่องของอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอต่อการป้องปราม โดยพบว่าขณะนี้มีอัตรากำลังอยู่ที่ 377 นายจากจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคน เฉลี่ยตำรวจ 1 นายดูแลประชากร 1.5 หมื่นคน จึงทำให้เกิดปัญหาอยู่บ้าง โดยในอนาคตสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีแผนในการจัดสร้าง สภ.เมืองพัทยา เพิ่มอีก 1 แห่ง พร้อมจัดส่งกำลังมาเพิ่มเติมเฉลี่ยปีละ 1.5 หมื่นนาย ซึ่งคงจะทำให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ในส่วนของเมืองพัทยาเองก็มีนโยบายสำคัญในการพัฒนา และปรับปรุงการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และระบบสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับสากล ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้นี้มีแผนจะทำการถมชายหาดในระยะความกว้าง 35 เมตร เพื่อให้เป็นจุดขายหลัก รวมทั้งการปรับภูมิทัศน์ชายหาด การขยายถนนชายหาดเพิ่มเติมอีก 1 เลน
นอกจากนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือเจ็ตสกีให้เช่า เรื่องของการแก้ไขปัญหาการจราจร เรื่องของระบบความปลอดภัยต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเพิ่มเติมอีกด้วย
ส่วนนายบริสุทธิ์ ประสบทรัพย์ ผอ.ส่วนภูมิภาคการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ ททท. ปัจจุบัน กำลังมองในกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มคนพิการ และกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาส เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูง เพราะการมาของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ไม่ได้เดินทางมาเพียงลำพัง
แต่อย่างไรก็ตาม การที่เมืองพัทยาจะได้นักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ต้องมีความพร้อมในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พัก อย่างพื้นที่เมืองพัทยา มีเพียงแค่โรงแรมเอวัณแห่งเดียว ที่ได้ปรับปรุงห้องพักพร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สำคัญไปแล้วกว่า 60 ห้อง
ขณะนี้ ทาง ททท. มีการหารือร่วมกับทางเมืองพัทยา โดยมุ่งหวังจะสร้างให้เมืองพัทยากลายเป็นเมืองต้นแบบในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ ไม่ว่าจะเป็นทางลาดลงสู่หาด, ทางสำหรับให้คนพิการสามารถลงไปเล่นน้ำได้อย่างสะดวก รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในส่วนต่างๆ ที่ครบถ้วน คาดว่าเมืองพัทยาจะกลายเป็นเมืองทางเลือกอีกเมืองหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และคาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวในกลุ่มของผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มอีกกว่า 1 ล้านคนอย่างแน่นอน