xs
xsm
sm
md
lg

โลมาตัวที่ 4 และ 5 ในอ่าวตราดตายอีก พบเหลือแต่ซาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตราด - โลมาตัวที่ 4 และ 5 ในอ่าวตราดตายอีก พบเหลือแต่ซากและหนัง กลุ่มประมงพื้นบ้าน กลุ่มอนุรักษ์ทั้งวอนทั้งขู่ให้ภาครัฐช่วยเหลือ

วันนี้ (30 ม.ค.) นายทัด จิตสถาพร ประธานกลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด นายกฤตภาส ศรีแสงขจร แกนนำเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และเจ้าหน้าที่ชันสูตรโลมาของศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ร่วมกันชันสูตรซากโลมาที่นำขึ้นมาจากทะเลตราด หลังจากนายสะอื้น เอินพบ ชาวประมงพื้นบ้านสะพานหิน พบและแจ้งให้กลุ่มอนุรักษ์ทราบและชักลากเข้ามาบริเวณชายหาดที่เป็นสุสานโลมา บ้านสะพานหิน ต.แหลมกลัด

จากการชันสูตรพบว่า เป็นโลมาอิรวดี ความยาว 209 เซนติเมตร เพศผู้ สภาพเน่าเปื่อย เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คาดว่าเสียชีวิตมากว่า 7 วัน สาเหตุจากเครื่องมือประมง

ต่อมานายทัดได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านอีกรายว่า พบเนื้อและหนังโลมาอยู่ห่างจากสุสานโลมาประมาณ 1,000 เมตร จึงเดินทางไปนำซากโลมากลับเข้าที่สุสานเพื่อทำบันทึกไว้ ทั้งนี้นับเป็นโลมาตัวที่ 4 และ 5 ที่ตายลงในทะเลตราด

นายทัดกล่าวว่า โลมาทั้ง 2 ตัวน่าจะเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันกับตัวที่พบวันที่ 28 มกราคม ซึ่งช่วงนี้มีเรือประมงอวนลากคู่เข้ามาจับปลาในพื้นที่ 3,000-5,000 เมตรจากชายฝั่ง ขณะที่โลมาชอบออกไปกินปลาที่หลุดออกจากอวน รวมทั้งยังติดเครื่องมือประมงชายฝั่งที่มีอยู่มากในอ่าว เนื่องจากปัจจุบันมีความอุดมสมบูรณ์มาก โลมาจึงเข้ามาหากินบริเวณใกล้ฝั่ง ทำให้ติดเครื่องมือประมงชายฝั่งจนเสียชีวิต

“ขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแล และป้องกันไม่ให้โลมาอิรวดีต้องตายลงอีก เพราะเวลา 3-4 วันโลมาตายแล้ว 5 ตัว เป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก วันนี้ประมงจังหวัดที่บอกว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็ควรจะออกมาแก้ไขและควบคุมเครื่องมือประมงในอ่าวตราด หรือควบคุมเรือประมงอวนลาก ที่เข้ามาทำประมงในพื้นที่ระยะนี้ ส่วนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ก็ไม่ควรปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาทั้ง 2 หน่วยปฏิเสธมาตลอด ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์พร้อมจะเคลื่อนไหว หากไม่ดำเนินการใดๆ อีก”

นายทัดกล่าวว่า กลุ่มอนุรักษ์ไม่มีกำลังและศักยภาพที่จะออกไปดูแลโลมา ที่ผ่านมาทำได้แค่รณรงค์ให้ความรู้และขอความร่วมมือจากชาวประมงด้วยกัน ทางส่วนราชการหรือท้องถิ่นต้องมาช่วยด้วย ทั้งงบประมาณหรือเครื่องมือ เพราะทุกวันนี้ใช้ทุนส่วนตัว เครื่องมือของชาวประมง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปทางกลุ่มประมงคงหมดกำลังใจทำงาน เนื่องจากทุกคนต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น