xs
xsm
sm
md
lg

ชาวพะเยาตามร้อง กสทช.ถึงเชียงราย-จี้ย้ายเสาโทรศัพท์ AIS พ้นชุมชนใน 30 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวพะเยาชุมนุมหน้าห้องประชุม กสทช.ที่เชียงราย จี้ให้เร่งย้ายเสาโทรศัพท์ AIS พ้นหมู่บ้านภายใน 30 วัน โวยร้องเรียนหลายหน่วยงานมาร่วม 2 ปี เรื่องกลับเงียบเป็นเป่าสากมาถึงทุกวันนี้

วันนี้ (29 ม.ค.) ขณะที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (กสทช.) จัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการจัดการเรื่องการให้บริการของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ที่โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท จ.เชียงราย ได้มีชาวบ้านจากบ้านน้ำแวน ม.2 ต.น้ำแวน ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ประมาณ 30 คน นำโดยนางอนงค์ โสภิตภิญโญ ตัวแทนชาวบ้าน รวมตัวชุมนุมเพื่อร้องทุกข์ต่อ พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และ ดร.สุทธิพล ทวีการ กรรมการ กสทช.

กลุ่มชาวบ้านร้องเรียนว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเสาโทรศัพท์ของ AIS ตั้งอยู่กลางชุมชนของหมู่บ้านดังกล่าวตั้งแต่ปี 2547 ทำให้ชาวบ้านวิตกเรื่องความปลอดภัย หลังจากนั้นก็สงสัยเรื่องอาการนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ เจ็บป่วยต่างๆ ฯลฯ ทำให้เมื่อ 2 ปีก่อนจึงได้เริ่มร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัด และ กสทช.แต่เรื่องก็ไม่คืบหน้า ทุกหน่วยงานอ้างว่าบริษัทเอกชนได้ขออนุญาตจัดตั้งอย่างถูกต้องไปแล้ว

นางอนงค์กล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นชาวบ้านได้จัดประชุมเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 56 ที่ผ่านมาโดยมีเจ้าหน้าที่ กสทช.ไปรับเรื่องด้วย จากนั้นชาวบ้านทั้งหมู่บ้านได้ทำประชาคมมีมติว่า ขอให้ย้ายเสาโทรศัพท์ออกไปตั้งห่างจากหมู่บ้านอย่างน้อย 400-500 เมตร ซึ่งชาวบ้านได้จัดเตรียมสถานที่ตั้งเสาใหม่รองรับเอาไว้ให้ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการย้ายออกไป ทำให้ชาวบ้านร้อนใจอย่างหนัก จึงได้ร้องเรียนต่อ กสทช. และขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากนี้ด้วย

ด้าน พ.อ.เศรษฐพงศ์กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ กสทช.มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่การแก้ไขปัญหานี้จะต้องทำกันทั้งระบบในภาพรวม เพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกกล่าวหาว่าดำเนินการไปตามความเชื่อส่วนตัว ซึ่งตนยืนยันว่ากรณีนี้จะไม่มีการปล่อยทิ้งไป จะมีการศึกษาข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจน จากนั้นถ้ามีอันตรายจริงก็จะต้องให้ออกจากพื้นที่ไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ถ้าไม่อันตรายก็ต้องมีเหตุผลที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนเช่นกัน

จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้ยื่นหนังสือถึง กสทช. โดยมีเนื้อหาว่าการดำเนินการตั้งเสาโทรศัพท์ดังกล่าวขัดต่อหลักเกณฑ์การขออนุญาตในการตั้งเสาส่งสัญญาณ และ กสทช.ได้มีคำสั่งปรับเอกชนรายดังกล่าวตามมาตรา 19 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนต่อระเบียบเงื่อนไขของใบอนุญาต โดยไปตั้งก่อนแล้วขออนุญาตภายหลังแต่มีเพียงการปรับเป็นเงินจำนวน 9,000 บาทเท่านั้น ไม่ได้มีการให้ย้ายเสาออกไปแต่อย่างใด ซึ่ง พ.อ.เศรษฐพงศ์รับเรื่องไว้พร้อมดำเนินการให้ต่อไปทำให้ชาวบ้านแยกย้ายกันกลับ


กำลังโหลดความคิดเห็น