เพชรบุรี - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชี้กรณีไม่สั่งฟ้อง “พ.ต.ท.” สารวัตร สภ.ปราณบุรี ล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นข้ออ้างแบบน้ำขุ่นๆ วอนขอความเป็นธรรม และขอความยุติธรรมให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ
สำหรับความคืบหน้ากรณีที่เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ที่ พ.ต.ท.กลยุทธ์ วงษ์เพชร์ พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีล่าสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานต่ออัยการจังหวัดเพชรบุรี โดยมีผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน ที่มี พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สารวัตร สภ.ปราณบุรี ร่วมทีมด้วย แต่การสั่งฟ้องได้สั่งฟ้องเพียง 8 คนที่ประกอบด้วย นายกิตติพล แซ่ลิ้ม นายระย้า คะนอง นายนิธิศ เกษมสงคราม นายสานิต อำนวยเลขา นายบุญชวน หน่อทิม นายสุชิน กลัดหลำ นายอรรถวุตต์ ดียิ่ง นายสมชาย ปลีดอก และนายสายชล กลัดหลำ ในข้อหาร่วมกันล่าและมีสัตว์ป่าคุ้มครอง (กบทูต) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และนำอาวุธปืนเข้าไปในเขตอุทยานโดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้อาวุธปืนยิงสัตว์ป่าในระหว่างพระอาทิตย์ตก และพระอาทิตย์ขึ้น นำสัตว์ออกไป หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์
ส่วน พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ เกตุมั่งมี สารวัตร สภ.ปราณบุรี ไม่มีการสั่งฟ้อง โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ แล้วพบว่า ภาพถ่ายที่ทางอุทยานส่งมายังไม่ชี้ชัดที่จะสามารถระบุได้ว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ ร่วมกันกระทำความผิดจริง เพราะภาพไม่มีวันที่ว่าถ่ายมาเมื่อใด อีกทั้งไม่มีภาพขณะกำลังล่าสัตว์ มีแต่ภาพนั่งกิน หรือทำกิจกรรมอื่น รวมทั้งพักค้างแรม ประกอบกับอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้จากการส่งตรวจแล้วไม่พบว่าเป็นของ พ.ต.ท.ธีรยุทธ อีกด้วย ในชั้นพนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับในชั้นอัยการว่าจะมีความเห็นอย่างไรต่อไป
โดยการสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สารวัตร สภ.ปราณบุรี ในครั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้แสดงความเห็นว่า กรณีที่ทางพนักงานสอบสวนกับฝ่ายปกครองสั่งไม่ฟ้องนั้น มีความรู้สึกว่าประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ประชาชนจะอยู่อย่างไร ในเมื่อหลักฐาน ของกลาง องค์ประกอบต่างๆ เราได้ครบที่ส่งต่อพนักงานสอบสวน และเชื่อว่าหลักฐานต่างๆ สามารถยืนยัน และมัดตัวและแจ้งข้อกล่าวหาต่อ พ.ต.ท.คนนี้ได้อย่างแน่นอน แต่กลับมาถูกสั่งไม่ฟ้องผมว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่ และตัวผมเองที่จะไม่ปลอดภัย แต่ไม่ใช่ว่าเราไปกลัวเขา แต่ไม่ปลอดภัยในเรื่องของระบบราชการ เพราะถ้าข้าราชการอยู่เหนือกฎหมายประชาชนจะอยู่อย่างไร
ส่วนกรณีภาพที่ทางพนักงานสอบสวนระบุว่า ที่ไม่สั่งฟ้องเพราะหลักฐานไม่ชัดเจนนั้นได้เปิดเผยว่า จากภาพถ่ายจะเห็นว่า พ.ต.ท.นั่งอยู่ในวงนั้นร่วมกับอีก 8 คนที่ถูกสั่งฟ้อง และมีอาวุธปืนพกสั้นวางอยู่ในวงอยู่ 4 กระบอก
“ถ้าถามว่าคุณเป็นตำรวจแล้วปืนที่วางอยู่ในวงนั้นไม่ใช่ของท่านด้วยถ้าเป็นปืนของคนอื่นแล้วพกมาถามว่าผิดไหม โดยตั้งข้อสงสัยไว้อย่างหนึ่งว่ากรณีที่ท่านเป็นตำรวจแล้วนั่งอยู่ เป็นผู้ควบคุมกฎหมายทำไมท่านไม่มีการจับกุม สองภาพที่ไม่มีการระบุวันที่ และเวลาที่ชัดเจนนั้นซึ่งภาพถ่ายทั่วๆ ไปที่เราจับกุมกันก็ไม่ได้ระบุวันที่ทำไม 1-8 คน ถึงจับกุม และสั่งฟ้องได้ ซึ่งบุคคลทั้ง 8 นั้นเป็นบุคคลเดียวกันทั้งหมดที่อยู่ในภาพถ่ายเดียวกัน เสื้อผ้า สีผ้า อุปกรณ์ ของใช้ต่างๆ เป็นชุดเดียวกันทั้งหมด ถ้าบอกว่าเป็นภาพเมื่อ 2 ปีที่แล้วจะเป็นไปได้ไหมที่จะสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกัน กางเกงตัวเดียวกัน อุปกรณ์ชุดเดียวกันกับในภาพถ่ายครั้งล่าสุดที่ส่งให้แก่พนักงานสอบสวนไป
เพราะฉะนั้น ที่ระบุว่าภาพถ่ายไม่ระบุวันที่ชัดเจนนั้นผมว่าเป็นข้ออ้างที่ไปแบบน้ำขุ่นๆ โดยในครั้งนี้ผมขอความเป็นธรรม ขอความยุติธรรมให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ผม เพราะผมทำเพื่อปกป้องทรัพยากรทั้งประเทศให้แก่ทุกๆ คน แต่วันนี้ทรัพยากรของผมถูกรังแกผมมีหน้าที่ปกป้อง ผมทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด แต่ในกระบวนการที่เห็นชัดเจนว่าไม่ฟ้อง ซึ่งแสดงถึงกระบวนการของข้าราชการที่ทำเพื่อแผ่นดิน
โดยในวันนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ชุดเดิมรวม 10 นาย ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อถ่ายภาพนำมาเทียบเคียงของเก่าทั้งหมด ซึ่งมีองค์ประกอบทั้งต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมรอบข้างเพื่อมาจับ GPS ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นอยู่ในพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติฯ จริงหรือไม่ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้อยู่แล้วว่า เสื้อผ้า อุปกรณ์ ว่าท่านจะมาใส่ในวันเดียวกันเมื่อ 2 ปีที่แล้วยังเก็บนำมาใส่อีกในวันเดียวกันอีก ขอให้ท่านยืนยันต่อศาลเลย ซึ่งกระบวนการชั้นศาลผมไม่แตะต้อง โดยพรุ่งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่กลับมาจะนำภาพถ่ายทั้งหมดยื่นส่งให้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีเพื่อนำยื่นต่ออัยการจังหวัดต่อไป”
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย.55 ที่ผ่านมา หลังจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้มีการจับกุมกลุ่มล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานและพบว่า มีนายตำรวจระดับ พ.ต.ท.ร่วมทีมอยู่ด้วยรวม 9 คน พร้อมด้วยอาวุธปืนเข้าไปล่าสัตว์ป่า และได้ของกลางทั้งกบทูต และกระจง พร้อมกับภาพถ่ายที่กลุ่มนายพรานถ่ายไว้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอขณะเข้าไปล่า และพักค้างแรมโดยได้ดำเนินการแจ้งความไว้ที่ สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย