ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รถไฟด่วนพิเศษสายอุบลฯ-กรุงเทพฯ ชนกระบะจุดข้ามทางรถไฟกลางเมืองโคราช พังยับเสียชีวิต 1 ราย โบกี้ตกราง และรางรถไฟชำรุดยาวกว่า 100 เมตร จนท.เร่งเก็บกู้ และซ่อมรางรถไฟเป็นการด่วน ประกาศหยุดเดินรถสายอีสานทั้งหมดชั่วคราว จนกว่าซ่อมแซมเสร็จ คาดใช้เวลากว่า 8 ชม.
วันนี้ (22 ม.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ภานุภัค สืบปรุ สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟด่วนพิเศษ ขบวนที่ 22 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ขาล่องชนกับรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณทางข้ามรางรถไฟ ถนนเลียบนคร หลังวัดหลักร้อย เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 และรถพยาบาลโรงพยาบาลโคราชเมโมเรียล
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน นค 6435 นครราชสีมา สภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบคนขับรถยนต์กระบะถูกชนจนกระเด็นออกมานอกรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญส่ง เขียนใหม่ อายุประมาณ 50 ปี พนักงานเทศบาลนครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตขณะเจ้าหน้าที่นำส่งรักษาโรงพยาบาล
อุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้โบกี้โดยสารรถไฟโบกี้ที่ 1 จากทั้งหมด 3 โบกี้พังยับเยินตกออกนอกราง และรางรถไฟบริเวณที่เกิดเหตุยังได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร เนื่องจากรถไฟได้ชนลากซากรถยนต์กระบะไปไกลจากจุดเกิดเหตุ ส่งผลให้ขบวนรถไฟสายอีสานต้องหยุดเดินรถเป็นการชั่วคราว ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมากับขบวนรถไฟเกือบ 200 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้จัดรถโดยสารปรับอากาศมารับผู้เพื่อเดินทางไปส่งยังจุดหมายปลายทาง
จากการสอบถาม นายวิรัตน์ เรืองเดช พนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าวเปิดเผยว่า ได้ขับรถไฟมาจากต้นทางที่สถานีอุบลราชธานี เพื่อนำผู้โดยสารไปส่งปลายทางที่กรุงเทพมหานคร โดยก่อนเกิดเหตุได้จอดแวะรับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟนครราชสีมา จากนั้นได้เคลื่อนขบวนรถออกมาตามปกติ กระทั่งเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ให้สัญญาณแตรหวูดรถไฟตามป้ายสัญญาณ เนื่องจากเป็นช่วงจุดข้ามทางรถไฟ และเป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์กระบะคันเกิดเหตุวิ่งข้ามรางมาด้วยความเร็วจึงทำให้รถไฟพุ่งชนเข้าอย่างแรง ก่อนลากรถกระบะไปไกลกว่า 100 เมตร จนขบวนรถไฟเสียหลักตกรางดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ภานุภัค สืบปรุ สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า นายบุญส่ง คนขับรถยนต์กระบะไม่ทันสังเกตเห็นรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีเครื่องกั้นรถไฟอัตโนมัติ แต่เครื่องดังกล่าวชำรุดมาประมาณ 2-3 วันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่การรถไฟได้นำป้ายมาติดประกาศไว้ แต่นายบุญส่ง อาจไม่ทราบ หรือมองไม่เห็น จึงไม่ทันระวังถูกรถไฟชนเสียชีวิตดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการเก็บกู้ขบวนรถไฟที่ตกราง และซ่อมแซมรางรถไฟที่เสียหาย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการกู้ขบวนรถไฟ และซ่อมแซมรางรถไฟไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง และทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ประกาศงดหยุดเดินรถไฟสายอีสานทั้งหมด จนกว่าจะดำเนินการซ่อมแซมรางรถไฟจุดเกิดเหตุเสร็จเรียบร้อย