ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.สภ.โพธิ์กลาง โคราช รวบอดีตพลทหารสิ้นคิด อ้างตัวเป็น “ร.ท.” สังกัดค่ายสุรนารี ทภ. 2 แต่งเครื่องแบบทหารครึ่งท่อนออกหลอกลวงสาว และ ขับ จยย. ตระเวนหาเหยื่อที่สวมใส่ของมีค่าในเขตตัวเมืองโคราชก่อนลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ ล่าสุดไม่รอดถูกรวบทันควัน
วันนี้ (26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นางสุรีพร เกษสุวรรณ์ อายุ 38 ปี ว่ามีคนร้ายก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำ หมายเลขทะเบียน งวธ 788 นครราชสีมา พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของตนล้ม ก่อนชิงสร้อยคอทองคำพร้อมจี้พระเลี่ยมทอง และสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 3 บาท ขับรถหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณถนนแม่บุญเหลือ หลังหมู่บ้านไชโย 1 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
หลังรับแจ้งจึงวิทยุประสานสายตรวจที่อยู่ใกล้เคียงเข้าปิดล้อมพื้นที่ จนพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับมาตามถนนตามที่ได้รับแจ้ง จึงเรียกให้หยุดรถ แต่คนร้ายไม่ยอม พยายามเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้รถจักรยานยนต์สายตรวจพุ่งชน ก่อน เข้าจับกุมตัวไว้ได้ และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โพธิ์กลาง ทราบชื่อต่อมา คือ นายเจตพล ผิวเฮ่าขา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ม.7 ต.หัวดง อ.นาคูน จ.มหาสารคาม ซึ่งขณะถูกจับกุม คนร้ายได้แต่งเครื่องแบบทหารครึ่งท่อน และสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำของหน่วยทหาร ในสังกัดค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ส่วนสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทองคำของกลาง พบซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง จากการตรวจค้นกระเป๋ายังพบนามบัตร ระบุชื่อ ร้อยโทเจตพล ผิวเฮ่าขา ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ 4 กองพันทหารม้าที่ 8 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา และเอกสารราชการอีกหลายใบ
จากการสอบสวน นายเจตพล ผิวเฮ่าขา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหา อ้างว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดหน่วยทหารในกรุงเทพฯ แต่ปลดประจำการมาแล้วหลายปี ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และมีพฤติกรรมชอบแอบอ้างเป็นนายทหาร ยศ “ร้อยโท” โดยจ้างให้ร้านทำนามบัตรให้เพื่อนำไปหลอกหญิงสาวมาเป็นเหยื่อ ซึ่งในช่วงกลางวันจะแต่งเครื่องแบบทหารครึ่งท่อนขับรถจักรยานยนต์อยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา หากพบเหยื่อเป็นหญิงและสวมสร้อยทอง หรือมีของมีค่าติดตัวก็จะขับรถจักรยานยนต์ตามประกบและหาโอกาสช่วงทางเปลี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์ ซึ่งเคยก่อคดีมาแล้วหลายท้องที่ ทั้งเขต ต.โพธิ์กลาง และ เขต อ.เมืองนครราชสีมา แต่ครั้งนี้ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของคนร้าย เนื่องจากน่าจะก่อคดีในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งแล้ว รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นน่าจะมีการแจ้งหายไว้ในท้องที่ สภ.เสิงสาง และคาดว่ามีคดีหลอกลวง และลักทรัพย์อีกหลายคดี ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับผู้เสียหายรายใดที่เคยถูก นายเจตพล หลอกลวง หรือถูกชิงทรัพย์สามารถดูตัวและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ที่ สภ.โพธิ์กลาง ได้ทันที