ราชบุรี - ชาวบ้านในตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ประท้วงนายทุนดูดทรายทำตลิ่งพังเข้าไปในพื้นที่ทํากินของชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนร่วม 100 หลังคาเรือน เผยจากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบบ่อทรายทองของนายทุนยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดในการประกอบกิจการ
เวลา 11.00 น.วันนี้ (21 ม.ค.) ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดราชบุรี ชาวบ้านในตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี กว่า 70 คน มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรเป็นกรณีเร่งด่วน หลังมีนายทุนผู้ประกอบการบ่อทรายเข้ามาดูดทรายในพื้นที่ จนเป็นเหตุให้ตลิ่งพังเข้าไปในพื้นที่ทํากินของชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 100 หลังคาเรือน
นางวารุณี สิทธิวิไล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ที่ 2 ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราบุรี กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือจากอำนาจรัฐให้ดำเนินการกับนายทุนดูดบ่อทราย ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 เกิดตลิ่งพัง และคูคลองยังตื้นเขิน ทางสาธารณะเป็นหลุมเป็นบ่อจากรถบรรทุกขนทรายสัญจรไปมาไม่สะดวก ฤดูทำนาส่งผลกระทบให้นำท่วมในพื้นที่ ทั้งที่ตำบลแห่งนี้ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน
ที่ผ่านมา ชาวนาปลูกข้าวกลับไม่ได้ข้าวอย่างข้าว 5 ไร่ ไม่ได้ผลผลิตเลย ต้องลงทุนอย่างสูญเปล่า เคยร้องเรียนไปที่อุตสาหกรรมจังหวัดแล้ว ผู้ประกอบการก็ยังเพิกเฉยต่อการตักเตือนของอุตสาหกรรม ร้องเรียนไปที่เทศบาลตำบลกรับใหญ่หลายครั้ง ผู้ประกอบการรับปากจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้แก่ประชาชน จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมา 2 ปี ผู้ประกอบการก็ยังเพิกเฉยต่อข้อตกลง
นางวารุณี กล่าวต่อว่า ต่อมา วันที่ 18 ธ.ค.55 เทศบาลตำบลกรับใหญ่ มีหนังสือคำสั่งแจ้งให้ผู้ประกอบการหยุดการขุดทรายขายจนกว่าจะมีมาตรการป้องกันการพังทลายของดิน หรือเว้นระยะให้เกิดความปลอดภัยตามที่ประชาชนร้องเรียน แต่ผู้ประกอบการยังเพิกเฉยต่อคำสั่งแจ้งให้หยุดการขุดทรายจากเทศบาลตำบลกรับใหญ่ เพราะในวันที่ 19-20 ธ.ค.55 ผู้ประกอบการยังทำการขุดทรายขายตามปกติ (กรณีบ่อทรายทอง หมู่ 2 ตำบลกรับใหญ่)
ชาวบ้านขอให้ทางจังหวัดช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากผู้ประกอบการบ่อทราย ขอให้ปรับปรุงซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อจากการวิ่งของรถบรรทุก และให้ดำเนินการลอกคลองที่ตื้นเขินจากการพังทลายของดินที่รถบรรทุกของผู้ประกอบการวิ่งผ่านเป็นเหตุให้ที่ดินของเกษตรกรใกล้เคียงพังทลาย และขุดชิดทางสาธารณะเกินไปขอให้ซ่อมแซมตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ โรงปั่นดินทำให้เกิดฝุ่นละออง และมีดินบางส่วนหล่นลงมาที่นาของเกษตรกร ฤดูทำนาทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตช้า และข้าวไม่ออกรวงเต็มที่ เพราะฝุ่นละอองไปคลุมยอดข้าว ทำให้ผลผลิตลดลง โรงปั่นดินควรหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรใกล้เคียงด้วย จึงขอให้จังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาเป็นกรณีเร่งด่วน
ต่อมา นายปิติธรรม ฐิติมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ให้แกนนำชาวบ้านเข้าร่วมประชุมพูดคุย โดยมีการเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไข และจากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบว่า บ่อทรายทองของนายทุนยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดในการประกอบกิจการ รองผู้ว่าราชการจังหวัด จึงสั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดร่วมกับเทศบาลตำบลกรับใหญ่ เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบของราษฎรเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือโดยเร็ว
ด้าน พ.ต.อ.บุญณรงค์ งามปลั่ง ผกก.สภ.กรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ขุดดิน ถมดิน พ.ศ.2543 ของเทศบาล และทางเจ้าทุกข์ได้ลงประจำวันใว้เป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา และทางด้านเทศบาลได้ดำเนินการแจ้งให้ทางผู้ประกอบการหยุดขุดดินในกิจการบ่อทรายแล้ว พร้อมทั้งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้ตั้งจุดตรวจในพื้นที่ห้ามไม่ให้ทางผู้ประกอบการบรรทุกทรายออกมาเป็นการชั่วคราวเพื่อรอเจ้าหน้าที่ทางจังหวัดส่งเข้ามาทำการตรวจสอบพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร้องเรียนดังกล่าว