ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อีสานโพล ม.ขอนแก่น วิจัยฐานข้อมูลการลงทุน 4 ประเทศอาเซียน ทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา จีนตอนใต้ และเวียดนาม เตรียมพร้อมทุนไทยก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เผยธุรกิจร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นเหมาะลงทุนทั้งในลาว กัมพูชา จีนตอนใต้ ส่วนธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์เหมาะลงทุนในเวียดนาม พร้อมเปิดเว็ปไซต์ www.gmskku.com ช่วยนักลงทุนค้นข้อมูลทุกด้านย้อนหลังกว่า 10 ปีก่อนตัดสินใจลงทุน
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดแถลงข่าวเรื่อง โครงการวิจัยศักยภาพพื้นที่ระดับประเทศของกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะไทย ลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ และกัมพูชา โดยคณะนักวิจัยจากศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ ห้องประชุมสิริคุณากร 4 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.ดร.กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม คณบดีคณะวิทยาการจัดการ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มข. หรืออีสานโพล กล่าวว่า โครงการวิจัยได้รับทุนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นโครงการเร่งรัดของภาครัฐ ต้องการหาข้อมูลให้นักธุรกิจก่อนที่จะเข้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้จะเป็นนักธุรกิจ ซึ่งได้ประโยชน์จากโครงการนี้ สามารถเปรียบเทียบได้ว่าอุตสาหกรรมไหนมีความได้เปรียบ อุตสาหกรรมไหนมีความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน อุตสาหกรรมไหนเป็นคู่แข่งกัน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยตัดสินใจได้ว่าถ้าเขาจะไปลงทุน หรือจะทำความร่วมมือ แข่งขันจะต้องทำอย่างไรบ้าง การลงทุนวิจัยครั้งนี้จะไม่หายไป เพราะฐานข้อมูลอยู่ในเว็บไซด์ นักธุรกิจจะสามารถใช้ฐานข้อมูลตัดสินใจได้ทันที
ผศ.ดร.ก่อพงษ์ พลโยราช ภาควิชาการตลาด คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนึ่งในทีมนักวิจัยที่ลงพื้นที่สำรวจสภาพตลาดและการลงทุนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และกัมพูชา กล่าวถึงธุรกิจที่น่าลงทุนใน สปป.ลาว ว่า ธุรกิจที่น่าสนใจลงทุนในลาว ธุรกิจแรกคือ ธุรกิจร้านอาหารไทยสไตร์โมเดิร์น เพราะสังคมใน สปป.ลาวมีลักษณะเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ประชาชนส่วนหนึ่งจับจ่ายสูงขึ้น
ธุรกิจต่อมาคือ ธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสาร อาทิ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งทางลาวมีความก้าวหน้าด้านการสื่อสารสูง ปัจจุบันใช้เทคโนโลยี 4G ธุรกิจถัดมาคือ ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรและได้มาตรฐาน ประเทศลาวมีการก่อสร้างเกิดขึ้นมาก และอีกธุรกิจหนึ่งคือ ธุรกิจผู้ค้าส่งสินค้าให้โรงแรม และร้านอาหาร เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานเหล่านี้ ต้องข้ามมาซื้อสินค้าที่ประเทศไทย
ขณะเดียวกัน ที่ประเทศกัมพูชามีธุรกิจหลายตัวที่น่าสนใจ ธุรกิจแรกคือร้านอาหารสไตล์โมเดิร์น ธุรกิจต่อมาคือปั๊มน้ำมันและคาร์แคร์ เพราะกัมพูชามีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ค่อนข้างมาก ธุรกิจปั๊มน้ำมันและคาร์แคร์แบบครบวงจรที่ได้มาตรฐานยังไม่มีที่กัมพูชา อีกธุรกิจหนึ่งคือ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งมีความน่าสนใจในการลงทุนทั้งในลาวและกัมพูชา เพราะแหล่งท่องเที่ยวมีมาก และอยู่ในช่วงการพัฒนา และรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศพร้อมสนับสนุน
ด้าน ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนึ่งในทีมนักวิจัย กล่าวถึงธุรกิจที่น่าลงทุนในเมืองกว่างโจว จีนตอนใต้ว่า เมืองกว่างโจวเป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ข้อมูลที่สำคัญสำหรับการลงทุนในแถบประเทศจีนตอนใต้พบว่ายากมากที่นักลงทุนไทยจะตั้งโรงงานผลิตสินค้าในจีน เพราะนักลงทุนจีนมีเงินลงทุนสูง ทั้งมีความเชี่ยวชาญในการลอกเลียนสินค้า ฉะนั้น การเข้าไปทำธุรกิจในจีนจึงเป็นเรื่องค่อนข้างยาก
อย่างไรก็ตาม ยังมีลู่ทางคือธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน โดยนักลงทุนไทยมีบทบาทเป็นตัวกระจายสินค้าให้สินค้าจีน เพราะสินค้าจีนมีราคาถูก มีให้เลือกหลากหลาย การนำเข้าสินค้าจึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทย อีกธุรกิจที่น่าสนใจคือ ธุรกิจร้านอาหารสไตร์โมเดิร์น ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น จากสถิติเพิ่มขึ้นจาก 1.7 ล้านคนในปี 2554 เป็น 2.5 ล้านคนในปี 2555 คนจีนจะคุ้นเคยกับรสชาติอาหารไทยมาก
นอกจากนี้ ธุรกิจเครื่องนุ่งห่ม แฟชั่นระดับคุณภาพ เพราะว่าจากสถิติพบว่าสินค้าเหล่านี้มีการส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นอันดับ 5 สินค้าไทยที่นำเข้าไปขายในจีน คนจีนค่อนข้างให้ความเชื่อถือว่าเป็นสินค้ามีคุณภาพ
ดร.สุทินกล่าวถึงลู่ทางการลงทุนในประเทศเวียดนามว่า การให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ ทั้งด้านโครงข่าย หรือตัวสินค้าโทรศัพท์ เป็นธุรกิจน่าสนใจ จากพฤติกรรมคนเวียดนามมีรูปแบบการใช้ชีวิตแบบคนสมัยใหม่ นิยมใช้มือถือ และรถจักรยานยนต์ในระดับที่สูงมาก จากสถิติพบว่าหมายเลขโทรศัพท์ที่เปิดใช้งานในเวียดนามมีมากถึง 110 ล้านเลขหมาย เทียบจำนวนประชากรมีเพียง 90 ล้านคน
ธุรกิจที่เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ เช่น คาร์แคร์ อุปกรณ์ตกแต่ง อุปกรณ์เสริมรถจักรยานยนต์ เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีลู่ทางสดใส จากจำนวนรถจักรยานยนต์ในเวียดนามที่มากถึง 24 ล้านคัน ทั้งพบสถิติว่าจำนวนเพิ่มขึ้นปีละ 1 ล้านคัน โดยมีคำพูดในสังคมเวียดนามที่น่าสนใจว่า “ถ้าใครไม่มีมอเตอร์ไซค์ จะหาภรรยาไม่ได้”
ทั้งนี้ คณะวิทยาการจัดการได้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปขึ้น โดยให้บริการผ่านเว็ปไซต์ www.gmskku.com ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นเว็บไซต์ที่เกิดประโยชน์ต่อนักลงทุน สามารถเข้ามาค้นหาข้อมูลด้านการลงทุน ทั้งการนำเข้า-ส่งออกของสินค้าแต่ละประเภท และศักยภาพการแข่งขันทั้ง 5 ประเทศ โดยมีฐานข้อมูลย้อนหลังไปถึง 10 ปี
อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจที่เพิ่งจะเข้าไปลงทุนในกลุ่ม 5 ประเทศควรศึกษาเรื่องของกฎระเบียบ การค้าขาย ข้อกฎหมายให้ชัดเจน และการหาคู่ค้าที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการศึกษาวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนในแต่ละประเทศไว้ด้วย