xs
xsm
sm
md
lg

“สมเด็จพระเทพฯ” พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ “หลวงปู่จาม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มุกดาหาร - สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ “หลวงปู่จาม มหาปุญโญ” และทรงรับไว้ในพระราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วัน ท่ามกลางศิษยานุศิษย์และประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมากราบสรีรสังขารหลวงปู่จำนวนมาก

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 56 ที่ผ่านมา เวลา 14.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพระราชพิธีน้ำสรงศพ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร และทรงรับสรีรสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ไว้ในพระราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วัน

ขณะที่บรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งสายบรรพชิต และฆราวาสจากทุกสารทิศได้เดินทางมากราบสรีรสังขารกันจำนวนมาก หลังทราบข่าวการละสังขารของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

ข่าวแจ้งว่า นอกจากการสรงน้ำศพหลวงปู่จาม มหาปุญโญ แล้ว ยังมีการแจกหนังสือ 104 ปีธรรมวิพากษ์ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ และออกโรงทานสำหรับผู้มาร่วมในพิธีสรงน้ำศพด้วย

พระอาจารย์อินถวาย สัตตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นหลานหลวงปู่จาม มหาปุญโญ กล่าวว่า หลังจากที่เปิดโอกาสให้ญาติโยมได้สรงน้ำศพหลวงปู่แล้ว จะได้นำสรีรสังขารของท่านบรรจุในโลงไม้สักทองและหีบศพทองคำมูลค่า 1.5 ล้านบาทที่ญาติโยมได้ซื้อถวาย

ส่วนกำหนดการบำเพ็ญกุศลศพ หลังจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงรับไว้ในพระราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วันแล้ว จะมีการหารือระหว่างลูกศิษย์จะตั้งสรีรสังขารของหลวงปู่ไว้กี่วันก่อนพิธีพระราชทานเพลิงศพ

สำหรับประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ

พ.ศ. 2453 กำเนิด เด็กชายจาม ผิวขำ ในปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ช่วงก่อนที่จะเสด็จสวรรคต (23 ตุลาคม 2453) ในปีนั้น หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ได้ถือกำเนิดเป็น ด.ช.จาม ผิวขำ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2453 ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ณ บ้านห้วยทราย คำชะอี จ.นครพนม (ปัจจุบันเป็นอำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร) โดยเป็นบุตรคนที่ 3 ของนายกา นางมะแง้ ผิวขำ หลวงปู่จามมีพี่น้องรวม 9 คน ดังนี้คือ นายแดง นายเจ๊ก นายจาม นางเจียง นายจูม นางจ๋า นายถนอม นายคำตา และนางเตื่อย

พ.ศ. 2459 เมื่ออายุได้ 6 ขวบ พ่อแม่ได้พาเด็กชายจามไปกราบ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งได้มาจำพรรษาอยู่ใกล้บ้านที่ภูผากูด คำชะอี

พ.ศ. 2464 บรรดาศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น จำนวนประมาณ 70 รูป ได้มารวมกันเป็นกองทัพธรรมสายพระกรรมฐานมากเป็นประวัติการณ์ที่ภูผากูด เนื่องจากหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่นได้มาพักประจำอยู่ที่ถ้ำจำปา ขณะนั้น ด.ช.จามอายุได้ประมาณ 11 ขวบ จึงได้ติดตามพ่อแม่ไปอุปัฏฐากดูแลพระกรรมฐานทั้งหลายอย่างใกล้ชิด (สถานที่ซึ่งรวมตัวกันนั้น ต่อมาได้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์หนองน่อง ทางทิศใต้ของบ้านห้วยทราย และได้ย้ายมาเป็นวัดป่าวิเวกวัฒนารามในปัจจุบัน)

พ.ศ. 2469 เมื่อ ด.ช.จามอายุได้ 16 ปี พ่อแม่ได้พาไปถวายตัวกับหลวงปู่มั่นที่ จ.อุบลราชธานี นุ่งขาวห่มขาวเป็นเวลา 9 เดือน หรือที่เรียกว่าเป็น ผ้าขาว 9 เดือน

พ.ศ. 2470 บรรพชาเป็นสามเณร ครั้งที่ 1 เมื่ออายุได้ 17 ปี จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่มั่น 1 พรรษา ที่บ้านหนองขอน อ.บุ่ง จ.อุบลราชธานี (อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ) ได้รับใช้ครูบาอาจารย์หลายท่าน ได้แก่ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, ท่านพ่อลี ธมฺมธโร, หลวงปู่สิงห์ ขนฺยาคโม, หลวงปู่มหาปิ่น ปญฺญาพโล เป็นต้น นอกจากนั้นยังเป็นสหธรรมิกเพื่อนสามเณร กับสามเณรสิม (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) อีกด้วย

พ.ศ. 2471 ออกธุดงค์เป็นครั้งแรกเมื่ออายุได้ 18 ปี หลวงปู่มั่นได้ฝากสามเณรจามไว้กับหลวงปู่กงมา หลวงปู่อ่อน หลวงปู่มหาปิ่น โดยสามเณรจามได้ติดตามครูบาอาจารย์ออกธุดงค์ไปยโสธรเป็นครั้งแรก

พ.ศ. 2472 ป่วยจำเป็นต้องลาสิกขา เมื่ออายุได้ 19 ปีสามเณรจามได้ออกธุดงค์ไปยังขอนแก่นกับหลวงปู่อ่อน หลวงปู่กงมา ต่อมาในปีนั้นสามเณรจามป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร โรคเหน็บชา จึงจำเป็นต้องลาสิกขาเพื่อกลับไปรักษาตัวที่บ้านห้วยทราย คำชะอี จนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ และใช้ชีวิตเป็นฆราวาส ทำไร่ ทำนา ค้าขาย ต่อมาจนถึงอายุ 28 ปี

พ.ศ. 2480 อธิษฐานขอบวชในพระพุทธศาสนา เมื่อนายจาม ผิวขำ มีอายุได้ 27 ปี พ่อกา (โยมพ่อ) บวชเป็นพระภิกษุ (ใช้ชีวิตอีก 6 ปี ก็มรณภาพในปี 2486) ส่วนแม่มะแง้ (โยมแม่) ก็ได้บวชชี (ใช้ชีวิตอีก 36 ปีจึงถึงแก่กรรม) ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2480 นายจาม ผิวขำ ไปไหว้พระธาตุพนม จ.นครพนม เพื่ออธิษฐานขอบวชในพระพุทธศาสนา

พ.ศ. 2481 บรรพชาเป็นสามเณรครั้งที่ 2 คณะญาติได้พาไปซื้อเครื่องบวชที่ร้านขายสังฆภัณฑ์ที่ตลาดบ้านผือ นายจาม ผิวขำ พบ น.ส.นาง เป็นลูกสาวเจ้าของร้าน เกิดปฏิพัทธ์จิตรักใคร่ทันทีเมื่อแรกพบ แม่ชีมะแง้ได้ปรึกษากับแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ เกรงจะมีปัญหาจึงได้พานายจาม ผิวขำ บวชเป็นสามเณรไว้ก่อนที่วัดป่าโคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2481 เพื่อหนีผู้หญิง แล้วเดินเท้าต่อไปไหว้พระพุทธบาทบัวบก หอนางอุษา และมุ่งหน้าไปวัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี

ครั้นอายุ 29 ปีบริบูรณ์จึงได้อุปสมบทในวันที่ 19 พฤษภาคม 2482 ที่วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชเสร็จพระจาม มหาปุญโญได้ออกธุดงค์ไปภาคเหนือจำพรรษาอยู่วัดเจดีย์หลวง 72 พรรษา ได้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2521 จึงกลับมาปักกลดจำพรรษาที่วัดป่าวิเวกวัฒนาราม สร้างวัดป่าวิเวกวัฒนารามให้เป็นที่พำนักนั่งวิปัสสนากรรมฐานจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน หลวงปู่จาม มหาปุณโญ มีอายุ 104 ปี













กำลังโหลดความคิดเห็น