xs
xsm
sm
md
lg

รัฐ-เอกชนแม่สอดจี้รัฐบาลเร่งจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตาก - “ยิ่งลักษณ์” นำขบวนเข้าแม่สอดดูสะพานมิตรภาพ ช่องทางส่งสินค้า ก่อนนั่งหัวโต๊ะหารือร่วมภาครัฐ-อกชน ด้านผู้ว่าฯ นายกเทศมนตรี ประสานเสียงขอเร่งผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ ขณะที่นายกฯ รับพิจารณาตามลำดับ แต่จะเร่งเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตปกครองพิเศษให้

วันนี้ (20 ม.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะลงพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดตาก ประธานหอการค้าจังหวัด และประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด รวมถึงประชาชนมารอให้การต้อนรับกว่า 5,000 คน

โดยคณะของนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เพื่อดูแนวการก่อสร้างโครงการสะพานมิตรภาพคู่ขนาน รวมทั้งดูช่องทางการส่งสินค้าผ่านแดน และพื้นที่จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จากนั้นประชุมร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่ศูนย์กลางการประชุมและแสดงสินค้า และส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศบาลนครแม่สอด เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัด นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด และนายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัด ซึ่งได้ขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตปกครองพิเศษนครแม่สอด เพื่อรองรับการเป็นประตูประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้เสนอขอให้นายกรัฐมนตรีเร่งรัดการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดเพื่อให้เกิดความชัดเจนด้านการลงทุนจากนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ รวมทั้งโครงการพัฒนารองรับ เช่น ถนนสี่เลนตาก-แม่สอด การปรับปรุงสนามบินแม่สอด การสร้างเส้นทางรถไฟและขุดเจาะอุโมงค์เชื่อมต่อระบบคมนาคมไปยัง จ.พิษณุโลก ต่อเนื่องถึง จ.ขอนแก่นและภาคอีสาน ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ลาวและเวียดนามได้ ขณะที่นายกเทศมนตรีนครแม่สอดเสนอให้รัฐบาลเร่งรัดออกร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการนครแม่สอด ควบคู่กับการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงโครงการสร้างสนามกีฬานานาชาติ และการปรับปรุงด่านพรมแดนแม่สอดให้สมกับเมืองประตูเออีซี

ขณะที่ประธานหอการค้าจังหวัดตากได้นำเสนอข้อคิดเห็นในส่วนของภาคเอกชนต่อนายกรัฐมนตรีรวม 6 ข้อ คือ 1. จัดตั้งเขตการค้าการลงทุนร่วมแม่สอด-เมียวดี พร้อมคณะกรรมการ 2 ประเทศเพื่อกำหนดรูปแบบ และยุทธศาสตร์เศรษฐกิจร่วมกัน 2. จัดตั้งคณะกรรมการเป็นเจ้าภาพดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาพื้นที่ 14,000 ไร่ให้เป็นรูปธรรม

3. เร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นรองรับการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน หรือ ASEAN Connectivity เพื่อความชัดเจน เช่น สร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 และถนนเชื่อมโยง รวมถึงจุดบริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service ของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ 4. เร่งให้มีการสำรวจและออกแบบเพื่อพัฒนาถนนสายเมืองตาก-แม่สอดให้เป็นทางสมัยใหม่ มีการเจาะอุโมงค์และทำสะพานเชื่อมเพื่อย่นระยะทาง

5. ผลักดันให้มีเที่ยวบินเชื่อมโยงกรุงเทพฯ-แม่สอด-ย่างกุ้ง กับเที่ยวบินสายกรุงเทพฯ-แม่สอด-เมาะละแหม่ง และ 6. ให้รัฐบาลเจรจาให้มีการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างชายแดนไทย-พม่า โดยใช้หนังสือผ่านแดนตามข้อตกลงไทย-พม่าว่าด้วยเรื่องการข้ามแดนปี 2540 โดยเปิดให้คนไทยสามารถไปได้ถึงเมืองเมาะละแหม่ง และคนพม่าเข้าถึง จ.พิษณุโลก เป็นเวลา 7 วัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอีกแนวทางหนึ่ง

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า โครงการต่างๆ ที่เสนอมานั้นจะนำไปพิจารณาตามลำดับความสำคัญ อย่างไรก็ตาม รับที่จะเร่งดำเนินการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตปกครองพิเศษนครแม่สอด โดยจะให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาพื้นที่ตามโครงการที่ภาครัฐและเอกชนเสนอมา ส่วนการก่อสร้างสะพานคู่ขนานนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ไปศึกษาข้อมูล และได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลด้านความมั่นคง ยาเสพติด การก่ออาชญากรรมข้ามแดน รวมทั้งให้ประสานกับฝ่ายพม่าเพื่อเข้าปรับปรุงพื้นที่บริเวณโนแมนแลนด์ พัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยวระหว่างประเทศต่อไป

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า รัฐบาลเห็นด้วยและให้ความสำคัญกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่จะต้องมีประสิทธิภาพด้วย และควรมีการศึกษาในเรื่องความคุ้มค่าของการลงทุนทางเศรษฐกิจ สำหรับการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟและรถยนต์นั้น รัฐบาลอยากทราบข้อมูลในเรื่องของการย่นระยะทางและเวลาในการเดินทาง และควรทำเส้นทางตัดผ่านพื้นที่ชุมชนอำนวยความสะดวกให้กับประชาน รวมถึงต้องเป็นเส้นทางหลักที่มีความคุ้มค่าอย่างแท้จริง จึงอยากให้ทางจังหวัดไปดำเนินการสรุปแล้วนำกลับมาเสนออีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น